รีวิว Kawasaki Ninja ZX-25R ที่มาพร้อมฟังก์ชันที่ทันสมัย
Kawasaki Ninja ZX-25R คือ รถสปอร์ตขนาดเล็กที่มีพิกัดเพียงแค่ 250ซีซี เท่านั้น แต่แฝงไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่มีความทรงพลังอย่างมากด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ รวมถึง Ram Air ที่ได้รับการออกแบบเหมือนกับ Kawasaki H2 วันนี้ผมได้มีโอกาสทดลองขี่เลยอยากจะมารีวิว Kawasaki Ninja ZX-25R กันครับ
![รีวิว-zx-25r-พร้อมฟังก์ชันการใช้งาน-[มีคลิป]](https://realmotosports.com/wp-content/uploads/2021/02/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-zx-25r-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B.jpg)
Kawasaki Ninja ZX-25R 4 สูบ ในพิกัด 250 ซีซี
หลังจากที่ได้เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Kawasaki Ninja ZX-25R หลายคนก็อยากจะสัมผัสกับความเป็นรถจักรยานยนต์ 4 สูบ ในพิกัด 250 ซีซี และซุ่มเสียงอันทรงพลังของเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ว่าจะมีเสียงที่ดุดันขนาดไหน ก่อนที่จะไปเล่าถึงรายละเอียดของตัวรถต้องบอกก่อนว่า Kawasaki Ninja ZX-25R รุ่นนี้ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่อย่าง ZX-10R ตั้งแต่รูปทรงและเทคโนโลยี มองดูผ่านๆ แล้วอาจจะคิดว่า ZX-25R คือรถระดับพันซีซีเลยก็ได้ครับ เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่คล้ายคลึงกันมาก ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องหน้าตาจะคล้ายกับ ZX-10R เท่านั้น รถรุ่นนี้ก็ยังจะคล้ายกับ Ninja 400 และ ZX-6R

แต่ที่แน่ๆ สำหรับ ZX-25R คันนี้ถึงจะเป็นรถสปอร์ตน้องสุดท้อง แต่กลับได้รับการใส่เทคโนโลยีเข้าไปแบบเต็มคัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Ram Air ที่ช่วยเติมอากาศให้เข้าไปสู่กรองอากาศได้อย่างง่ายดาย มีความคล้ายกับ Kawasaki H2 จะเป็นการช่วยให้เครื่องยนต์มีพละกำลังที่ดีขึ้น ช่วงล่างที่มีการนำเอาโช้คอัพหน้าแบบ UpSide Down หรือที่เรียกกันว่าโช้คหัวกลับมาใช้ในรุ่นเล็กนี้ และได้มีการปรับตั้งขนาดของลูกสูบภายในกระบอกโช้คให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อช่วยในการซับแรงกระแทกและสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้เหมาะสมมากขึ้น รวมไปถึงโช้คอัพหลังที่เป็นแบบ Horizontal Back-link ที่มีการวางแบบเดียวกับ ZX-10R และสามารถปรับพรีโหลดได้ถึง 5 ระดับ จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการขับขี่ในแบบของตัวเองได้ครับ
POWER MODE ที่เพิ่มเข้ามาใน Kawasaki Ninja ZX-25R
ไม่เพียงเท่านั้น Kawasaki Ninja ZX-25R ยังได้เพิ่มเติมในส่วนของ POWER MODE ที่มีให้เลือกขับขี่แบบ F และ L สามารถเลือกขับขี่ได้ตามลักษณะการใช้งาน ต่อมา KTRC หรือ แทรคชั่นคอลโทรลที่สามารถเลือกใช้ได้ถึง 3 ระดับ หากไม่ต้องการใช้ก็สามารถปิดได้เลยครับ ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยป้องกันการหมุนของล้อหน้าและล้อหลังที่ไม่สัมพันธ์กันได้
ต่อเนื่องด้วยระบบ ASSIST & SLIPPER CLUTCH ระบบที่ Kawasaki ได้ใส่มาให้แทบทุกรุ่นที่จำหน่าย ระบบนี้จะช่วยให้การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น เพราะหากต้องการเชนจ์เกียร์ลงมาอย่างรวดเร็วล้อก็จะไม่มีอาการล็อค เครื่องยนต์นิ่มนวลมากขึ้นรวมถึงใช้แรงบีบคลัทช์น้อยลง


จุดขาย Kawasaki ZX-25R คือ KQS
และจุดขายที่ได้เปรียบของ Kawasaki ZX-25R คือ KQS หรือ QUICK SHIFTER ที่สามารถใช้งานได้ทั้งขึ้นและลง จะเป็นการช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและสนุกได้ทุกรอบความเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งในสนามและบนท้องถนน การต่อเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
แต่สำหรับการขับขี่หรือว่าใช้งานจริงแล้วนั้น ในสัมผัสแรกเลยก็คือ ZX-25R เป็นรถที่มีน้ำหนักเบา และมีความสูงที่เหมาะกับรูปร่างของคนไทย ตำแหน่งท่านั่ง ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นรถสปอร์ต แต่เมื่อนั่งไปแล้วท่านั่งกลับทำให้รู้สึกสบาย สามารถควบคุมรถได้ง่าย ช่วงแฮนด์มีความกว้างที่พอดีกับช่วงไหล่ถึงจะเป็นแฮนด์จับใต้แผงคอรถก็ตาม เช่นเดียวกับตำแหน่งวางเท้าเองก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่งอเข่าจนมากเกินไป ดังนั้นทั้ง 3 ส่วนนี้จึงมีความสัมพันธ์กันและมีผลต่อการควบคุมรถ
ก่อนออกตัวผมได้ลองเลือกใช้โหมด L ก่อน ระบบนี้จะให้กำลังเครื่องยนต์เพียง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเครื่องยนต์ให้ความนุ่มนวล ตั้งแต่ออกตัว และเลือกใช้ KTRC ที่ระดับ 1 การตั้งระบบนั้นจะต้องปรับตั้งก่อนที่จะออกตัว อีกอย่างหนึ่งที่สัมผัสได้ถึงเทคโนโลยีนั่นก็คือ เรื่องของคันเร่งไฟฟ้าที่ให้ความแม่นยำในการใช้งานไม่ว่าจะใช้คันเร่งหรือว่ารอบเครื่องยนต์ทั้งรอบต้น กลาง ปลาย คันเร่งไฟฟ้าจะให้ความแม่นยำอย่างมาก รอบเครื่องยนต์ในรอบต้นนั้นจะมีความนุ่มนวลขี่ได้สบาย เหมาะกับนักบิดที่อาจจะยังไม่คุ้นกับรถครับ
อีกหนึ่งความประทับใจอย่างมากเลยคือ เรื่องของ QUICK SHIFTER ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัทช์ และในบางช่วงก็ไม่ต้องยกคันเร่งเลย ทำให้รอบเครื่องยนต์สามารถส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับช่วงจังหวะที่เชนจ์เกียร์ลงมา แต่ตรงจุดนี้ให้ยกคันเร่งก่อนค่อยเชนจ์เกียร์ลงมา เพราะไม่อย่างนั้นรอบที่อยู่ในมือจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานต่อ ซึ่งถ้าหากไม่คุ้นมือก็จะทำให้เป็นอันตรายได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าจะเชนจ์เกียร์ก็ควรจะยกคันเร่งก่อนค่อยเชนจ์เกียร์ลงมา
ช่วงล่างของ Kawasaki Ninja ZX-25R ที่ตอบโจทย์ได้ดี
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องบอกว่าให้ความประทับใจ และเหมาะกับความเป็นสายพันธุ์สปอร์ตเลยก็คือ เรื่องของช่วงล่างกับการใช้งานเส้นทางที่เป็นถนนปกติบอกเลยว่า ช่วงล่างที่ติดมากับรถนั้นเพียงพอกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ผ่านทางขรุขระหรือว่าขับขี่ผ่านโค้ง ช่วงล่างช่วยทำให้รถมีความนิ่ง รถไม่มีอาการแกว่งเมื่อต้องขับขี่ผ่านหลุมหรือต้องเข้าโค้งฉะนั้นเราสามารถเดินคันเร่งได้อย่างต่อเนื่องระหว่างที่ต้องออกจากโค้ง
ระบบ ABS ของ Kawasaki Ninja ZX-25R
หลังจากที่ได้ลองโหมดที่เป็น L จนคุ้นชินกับรถแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นโหมด F หรือฟูล ที่ให้กำลังเครื่องยนต์แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อได้ลองแล้วต้องบอกว่าทั้ง 2 โหมดนั้นให้ความแตกต่างของเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างจะชัดเจนเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อมีความคุ้นเคยแล้วบางท่านก็อาจจะปรับไปที่โหมด F เลยก็ได้ ส่วนระบบอื่นๆ นั้น อาจจะไม่ค่อยได้สัมผัสมากสักเท่าไหร่นัก ด้วยสภาพผิวถนนนั้นเป็นถนนใหม่และไม่มีช่วงให้ได้ลอง
อีกอย่างที่ต้องบอกว่าน่าจะถูกใจสายมอเตอร์สปอร์ตเลยก็คือ การเชนจ์เกียร์ที่ระบบ ASSIST & SLIPPER CLUTCH เมื่อต้องการเชนจ์เกียร์ลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ล้อหลังไม่ล็อค เครื่องยนต์สามารถชะลอความเร็วลงมาได้อย่างนุ่มนวลลดแรงกระชาก

ต้องยอมรับว่าการได้ขี่ Kawasaki Ninja ZX-25R มาตลอดทั้งวันนั้น ให้ความประทับใจในทุกจุด ถึงแม้การจราจรในเมืองเองที่ดูแออัด แต่ ZX-25R ก็มีความคล่องตัวได้ดีทีเดียว ซึ่งถ้าหากใครที่ชอบความเป็นสปอร์ต และต้องการเทคโนโลยีเอาไว้ใช้งานแล้ว ZX-25R ถือว่าตอบโจทย์ได้ครบถ้วนที่สุดของชาวสปอร์ตจริงๆ สำหรับราคาได้มีการเปิดตัวมาที่ 269,000 บาท
ใครที่อยากลองขี่และสัมผัสตัวจริงเสียงจริงพร้อมฟังซุ่มเสียงที่ดุดันแบบผมสามารถเข้ามาทดลองขี่ได้ที่ Kawasaki Real MotoSports ได้เลยครับมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ทุกวัน แล้วมาสัมผัสความเป็นสปอร์ตกับเรานะครับ
