บอกลาสายขน ออกทริปเบาๆสไตล์ minimalism กันดีกว่า
หลายๆ คนคงเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริป และบ่อยครั้งที่ชอบขนของสารพัด มันรุงรังรึเปล่าครับ? รู้สึกเหนื่อยบ้างไหม ถ้าใช่วันนี้ ศูนย์คาวาซากิ Real MotoSports ขอนำเสนอบทความที่จะสามารถช่วยลดขนาดสัมภาระได้อย่างง่ายดาย รับรองว่าจะไม่เป็นภาระสำหรับการเดินทางอีกต่อไป
ผมเองก็เป็นหนึ่งในสายขนมาก่อน นอกจากของใช้ส่วนตัว ก็มักจะกังวลนั่นนี่ พกทั้งยางใน ชุดปะยาง สายคลัทช์ คันเร่ง สเปรย์นั่นนี่ กล่องเครื่องมือ ปั้มลมไฟฟ้า และอื่นๆ จิปาถะ เรียกได้ว่า แทบจะเซอร์วิสรถได้ทั้งคัน ยิ่งพอขยับขยายซีซี อัพรถขึ้นมาเป็น Big scooter แต่งทัวริ่งเต็มอยู่ช่วงนึงก็ขนสะใจ ทั้งพื้นที่เก็บของใต้เบาะ กล่องหลัง กระเป๋าพาดข้าง จนมาถึงจุดนึง ก็เริ่มรู้จักเหนื่อยที่ต้องคอยแบกของเหล่านั้นไว้ จนหันมาเริ่มออกทริปแบบเบาๆ เอาไปแต่ของจำเป็นจริงๆ จนกลายเป็นว่ารู้สึกชอบแนวเบาๆสบายๆ แบบนี้เข้าแล้ว
ลดขนาดเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว
หลักสำคัญคือเลือกใช้เสื้อผ้าที่บางและแห้งไว จะลดขนาดสัมภาระได้มาก ไม่ว่าจะออกทริปนานแค่ไหนจะไม่กี่วันหรือนานเป็นสัปดาห์ขึ้นไป ผมก็เอาไปแค่นี้ คือ เสื้อการ์ด 1 ตัว กางเกงยีนผ้ายืด 2 ตัว เสื้อในแบบบาง 2-3 ตัว กางเกงชั้นในแบบ boxer ขาสั้น 2-3 ตัว ถุงเท้า 2-3 คู่ รองเท้าแตะแบบหนีบ นอกจากนี้ก็อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่น สนับเข่า หมวกกันน็อค รองเท้าบูท ถุงมือ และอุปกรณ์กันหนาวเล็กน้อยซึ่งจะกล่าวต่อไป
รูปภาพจาก : http://yellowthai.yellowpages.co.th/lifestyle/dress-traveling/
จะไม่กี่วันหรือนานเป็นสัปดาห์ขึ้นไป ผมก็เอาไปแค่นี้ คือ เสื้อการ์ด 1 ตัว กางเกงยีนผ้ายืด 2 ตัว เสื้อในแบบบาง 2-3 ตัว กางเกงชั้นในแบบ boxer ขาสั้น 2-3 ตัว ถุงเท้า 2-3 คู่ รองเท้าแตะแบบหนีบ นอกจากนี้ก็อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่น สนับเข่า หมวกกันน็อค รองเท้าบูท ถุงมือ และอุปกรณ์กันหนาวเล็กน้อยซึ่งจะกล่าวต่อไป ยุคนี้โชคดีมาก มีร้านเสื้อผ้าดังๆจากต่างประเทศเข้ามาเปิดในไทย โดยเฉพาะร้าน Uniqlo ที่ผมอยากแนะนำกัน เสื้อในกับกางเกงชั้นในของเจ้านี้จะมีรุ่นที่โฆษณาว่าอากาศผ่านดี
ซึ่งข้อดีคือซักแล้วตากแห้งไวมาก พอถึงที่พักก็ซักทันที ผึ่งระเบียง หรือผึ่งแอร์ เช้ามาก็แห้ง ยิ่งถ้ากล่องหลังใครมีตาข่าย ชิ้นไหนไม่แห้งดี ก็ยัดใส่ตาข่ายไว้ ขี่ผึ่งลมผึ่งแดดสักพักก็แห้งสนิท ดังนั้นไม่ว่าทริปนั้นจะนานแค่ไหน แค่มีเสื้อผ้าแบบบางๆ 3 ชุดก็สามารถเที่ยวยาวแค่ไหนก็ได้ โดยไม่กังวลว่าเสื้อจะไม่พอ เพราะซักแล้วตากจนแห้งได้ทุกวันพวกน้ำยาซักผ้าก็ใส่ขวดเล็กๆ พกไป ยางสีฟัน แปรง ก็ใช้ขนาดพกพาเล็กๆ ผ้าเช็ดตัว เผื่อที่พักไม่มีให้ ก็เตรียมผ้าไมโครไฟเบอร์ผืนใหญ่ๆ บางๆ ติดไปด้วย เพราะซับน้ำดี และแห้งไวกว่าผ้าขนหนูปกติมาก ของทั้งหมดนี้สามารถพับเก็บใส่ในกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ ใบเดียวได้สบาย
หน้าหนาว ใช้วิธีแต่งตัวเป็นชั้นๆแบบ Layers
หน้าหนาวบ้านเรา แม้ว่าวันที่หนาวขนาดไหน ช่วงกลางวันก็มักจะยังแดดจ้าอยู่ดี ถึงจะมาหนาวมากตอนกลางคืน ดังนั้น ถ้าเราเตรียมชุดการ์ดสำหรับหน้าหนาว ถุงมือเฉพาะทางสำหรับหน้าหนาวไป ตอนกลางคืนขี่อุ่นสบาย แต่กลางวันร้อนเหงื่อแตกซะงั้น สำหรับผมแล้วจะใส่เสื้อการ์ดปรกติไป แล้วพกเสื้อกั๊กขนเป็ดของ Uniqlo ติดไปด้วย ตอนกลางวันก็จะม้วนได้เป็นก้อนเล็กๆได้ไม่เปลืองที่ เอาออกมาใส่เฉพาะเวลาอากาศเริ่มเย็น ถุงมือก็เช่นกัน ใช้เพียงถุงมือการ์ดทั่วไป แล้วพออากาศเริ่มหนาวก็ใส่ถุงมือซ้อนด้านในอีกที ถ้าหากมีเวลาเตรียมการหน่อย ก็แนะให้หาถุงมือด้านในที่ช่วยเก็บความอุ่นกันลม หรือที่เค้าเรียกกันว่า liner gloves จะยิ่งดี
แต่ถ้าฉุกเฉินหาไม่ได้ ก็สามารถใช้ถุงมือยาง แบบที่ขายตามร้านขายยา สวมทับก่อนใส่ถุงมืออีกที ถ้าหนาวมากก็สวมทับไปสองชั้นเลย ความหนาวจะเกิดจากลม ดังนั้นต้องกันลมให้ได้มากสุด กรณีฉุกเฉินจริงๆ ถ้าตัวเย็นมากๆ หาถุงพลาสติกใบใหญ่ๆ เช่นถุงดำ ยัดซุกเข้าไปในเสื้อการ์ด ช่วยกันลมหนาวได้ ให้ตัวอุ่นที่สุดครับ วิธีนี้หลายคนอาจจะขำก๊าก แต่ได้ผลดีมาก เอาตัวรอดได้แน่นอนครับ
รูปภาพจาก https://www.nanasupplier.com/Thumcharoen/p-197728
ของฝาก ของไม่จำเป็น เลือกใช้บริการขนส่งกลับบ้าน
ของฝากต่างๆ ผมซื้อเสร็จก็วิ่งหาไปรษณีย์ หรือบริการขนส่งในตัวเมือง ส่งกลับบ้านทันที จะได้ไม่ต้องขนให้เปลืองที่ แถมเค้ายังบริการห่อ กันกระแทกให้เสร็จสรรพ นอกจากของฝากแล้ว บางทีอุปกรณ์ของรถมีปัญหา เช่น ชิลบังลมที่ผมเคยใส่ติดรถ พอขี่ทางไกล เกิดลมหวนขึ้นมาตีหมวก โยนไปมาจนปวดคอ พอถึงที่พักก็ถอดออก ส่งไปรษณีย์กลับบ้านทันที เพราะไม่สะดวกที่จะขนติดตัวไปตลอดทริป จะทิ้งก็เสียดาย
ยางใน สายคลัทช์ และอื่นๆ ไม่จำเป็นไม่ต้องพกไป
(สำหรับท่านที่ขี่เส้นทางเปลี่ยวทุรกันดาร ออกต่างประเทศ ข้ามข้อนี้ไปได้ครับ) สมัยก่อนผมพกไปตลอด แต่ไม่เคยได้ใช้สักที ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะได้ใช้ แต่ไปๆ มาๆ มันเปลืองพื้นที่ในการขนมาก เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีกับการสื่อสารก้าวหน้าขึ้นมาก ลองวิธีผมดีไหมครับ รถไม่ว่าจะมียางในไม่มียางใน ให้เตรียมพร้อมเติมน้ำยากันรั่วไว้ก่อน มีขายหลากหลายยี่ห้อ ขณะขี่อยู่ถ้าโดนตะปูตำขึ้นมา ยางจะได้ไม่แบนในทันที ยังมีเวลาให้จอดได้อย่างปลอดภัย
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ายางโดนอะไรทิ่มแล้ว ผมอยากจะแนะนำให้ไปหาเครื่องวัดลมยางแบบเรียลไทม์มาใส่กันครับ จะเรียกว่า TPMS จะมีเซนเซอร์ 2 ตัวใส่แทนจุกยางที่ล้อ แล้วมีเครื่องคล้ายๆรีโมทเล็กๆ มีหน้าจอบอกลมยางตลอด ถ้าขี่ๆแล้วสังเกตว่า ลมในยางหายไวผิดปรกติ แสดงว่าอาจมีอะไรทำให้รั่วแล้ว ก็สามารถสำรวจได้ทันที ไม่ปล่อยให้ตะปูทิ่มไว้นานจนแผลใหญ่เกินการเยียวยา ซึ่งเจ้าเครื่อง TPMS เดี๋ยวนี้ราคาแค่ 1 พันต้นๆ ก็สามารถหาได้แล้ว ช่วยให้อุ่นใจเวลาเดินทางได้มาก
สำหรับรถที่มียางใน ที่ผมไม่พกไป เพราะถึงพกไป การจะถอดล้อเปลี่ยนยางในข้างถนนเอง สำหรับรถ big bike แล้วเป็นเรื่องที่ยากและเหนื่อยสาหัสมากๆ (ขนาดถอดล้อเปลี่ยนยางในเองที่บ้านก็ยังเป็นเรื่องยากเลยครับ) แถมอันตรายจากรถที่สัญจรไปมาอีก อีกอย่างถ้าเหล็กงัดยางยาวไม่พอ งัดยังไงก็ไม่ออก ครั้นจะให้พกเหล็กงัดยาวเป็นฟุตก็ขนกันพะรุงพะรัง ทำไม่ดีล้อแพงๆก็เป็นรอยซะอีก
ปัจจุบันนี้ทุกคนมีอินเทอร์เน็ต มีมือถือ แถมมีคนพร้อมให้บริการทุกรูปแบบ สำรองเงินสดซ่อนไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน แล้วโทรเรียกรถยกดีกว่า ไม่ใช่ยกกลับบ้านอย่างเดียวนะ แต่ยกรถเข้าตัวเมือง ไว้ที่พัก ศูนย์ หรือร้านอะไรก็แล้วแต่สถานการณ์ จากนั้นค่อยหาทางแก้ไขเอา จะเหนื่อยน้อยกว่ามาก ส่วนยางในสามารถหาเทียบ สั่งซื้อในอินเทอร์เน็ตให้ทางร้านส่งมาให้ที่พัก หรือหาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วให้ทางบ้านส่งไปรษณีย์มา ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะไม่ต้องขนของเหล่านี้
Trick สำหรับ Bikers
– หมวกกันน็อคสำหรับออกทริปไกลๆแนะนำให้ใช้ชิลใสเท่านั้นเพื่อให้แสงผ่านได้มากที่สุดเวลาขี่ตอนกลางคืน แล้วใส่แว่นกันแดดตอนกลางวันแทน สำหรับคนใส่แว่นสายตาก็สามารถหาใช้แว่นกันแดดแบบคลิปหนีบ หรือแม่เหล็กติดได้
– ผ้าบัฟ สารพัดประโยชน์ แนะนำให้พกไปด้วย เวลาอากาศหนาว ยิ่งถ้าหนาวแห้งๆจะหายใจลำบาก ดึงผ้าบัฟขึ้นมาปิดจมูกจะช่วยให้ชื้นขึ้นหายใจสะดวกกว่ามาก ส่วนเวลาอากาศร้อน สามารถชุบน้ำพันคอไว้ จะช่วยลดความร้อน กันลมแดด กันแดดเผาได้
-พาวเวอร์แบงค์ รางปลั๊กไฟอันเล็ก อะแดปเตอร์แปลงหัวปลั๊ก และอะแดปเตอร์ชาร์จ USB แบบมีหลายรู สำหรับชาร์จอุปกรณ์ได้หลายๆชิ้นพร้อมกัน และเผื่อที่พักมีปลั๊กไม่เพียงพอ ถ้าจะไปเที่ยวแบบเบาๆพกไม่เยอะ มือถือสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องมั่นใจว่ามีไฟพร้อมใช้เสมอ คาเฟ่หลายแห่งมีไฟให้ใช้ แต่เต้าเสียบอยู่กับพื้น และสายชาร์จมือถือมักจะสั้น ถ้าไม่มีรางปลั๊กไฟต่อสายให้ยาวขึ้น ต้องมุดใต้โต๊ะเพื่อชาร์จมือถือใช้งานก็จะทุลักทุเลน่าดู
ครั้งหน้า ศูนย์คาวาซากิ Real MotoSports จะมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับอะไรมาฝากอีกนั้นต้องคอยติดตาม…
เพราะเรามีความตั้งใจที่จะมอบบทความดีๆ แบบนี้ให้กับทุกท่าน อ่านข่าวสารเกี่ยวกับ Kawasaki เพิ่มเติม คลิก
บทความโดย DimsumRacer ปอ
ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า
