อัปเดตรายละเอียดใบขับขี่บิ๊กไบค์
ช่วงนี้เรามักจะได้ยินข่าวเรื่องของการทำใบขับขี่แยกประเภทของรถจักรยานยนต์ทั่วไปกันมาพอสมควรโดยเฉพาะใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีกระแสข่าวมานานมาก และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยถึงการที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะต้องทำใบขับขี่เพิ่มอีก 1 ใบ โดยเฉพาะผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หรือว่าคนที่อยากจะขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์
เลือกอ่านในหัวข้อที่สนใจ
สาเหตุของการต้องมีใบขับขี่บิ๊กไบค์
ก่อนที่จะไปดูเรื่องของกฎเกณฑ์ต่างๆ ในการทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นั้น ลองมาดูถึงสาเหตุหลักของการทำให้ใบขับขี่ประเภทนี้เกิดขึ้นกันก่อนดีกว่า ซึ่งสาเหตุหลักก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดีนั้นก็คือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นมาจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นอันดับ 1 ของสถิติ และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ก็ถูกเพ่งเล็งมานาน ตามข่าวที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ ถึงแม้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่ได้เป็นรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ก็ตาม แต่ก็ยังถูกเหมารวมว่าเป็นรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อยู่เรื่อยๆ
อย่างไรก็ดีการแบ่งแยกประเภทใบขับขี่ก็อาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้มีการคัดกรองผู้ขับขี่ ให้ใช้รถอย่างระมัดระวังมากขึ้นด้วยนั้นเอง โดยเฉพาะการควบคุมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ควรจะมีความเข้าใจและมีทักษะในการควบคุมเครื่องยนต์ที่มีกำลังหรือ ซีซี ที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดคันเร่ง หรือยกคันเร่งหรือระยะการเบรกซึ่งจะมีความแตกต่างจากรถเล็กเป็นอย่างมาก แต่อีกส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ในช่วงหลังเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นั้นเริ่มติดลบกันมาขึ้น
ส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุมาจากพฤติกรรมความสนุกที่เกินขอบเขตนั่นเอง โดยเฉพาะการใช้ความเร็วบนถนนหลวงหรือว่าจะเป็นการขับขี่เพื่อโชว์ทักษะในการเข้าโค้งตามสถานที่ต่างๆ แล้วมาโพสลงโซเชียลอย่างที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ สิ่งเหล่านี้เป็นการกระตุ้นทำให้ภาครัฐมีมาตรการต่างๆ เหล่านี้ออกมาเพื่อควบคุมดูแลให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
กฎเกณฑ์ของการทำใบขับขี่บิ๊กไบค์
เมื่อมีการประกาศใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์แล้ว ลองมาดูกฎเกณฑ์กันสักหน่อยว่าผู้ที่อยากจะมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่ง ณ เวลานี้ก็เริ่มจะมีกฎเกณฑ์ออกมาแล้ว อย่างแรกเลยก็คือผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ตลอดชีพนั้น ก็ไม่ต้องทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ แต่ถ้าหากต้องการอบรมก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นการสมัครใจมากกว่า
ในประเภทต่อมาคือผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป นับรวมกับใบอนุญาตแบบชั่วคราวด้วย หรือเป็นผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยจะต้องเป็นชื่อของตัวเอง ก็จะต้องเข้ารับการอบรมการใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เพิ่มเติม 1 ชั่วโมงเท่านั้น อีกประเด็นหนึ่งก็คืออาจจะมีการเปลี่ยนรถใหม่ที่เจ้าของรถอาจจะเพิ่งขายคันเก่าไปแล้วซื้อคันใหม่มาก็จะต้องเข้าระบบการอบรม 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน
ส่วนผู้ที่เคยผ่านการอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เบื้องต้นมาจากโรงเรียนต่างๆ หรือว่าจากผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ของแต่ละค่ายนั้น จะต้องผ่านการอบรมมาไม่เกิน 3 ปี เท่านั้น และในแบบสุดท้ายก็คือผู้ที่ยังไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์เลยแต่อยากจะทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภททั่วไปหรือประเภทรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นั้นก็ต้องเข้าอบรมทั้งหมด 12 ชั่วโมง
นี้เป็นกฎเกณฑ์เบื้องต้นที่ได้ถูกกำหนดออกมาแบบคร่าวๆ โดยเน้นไปที่ผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่จะต้องมีการจัดเตรียมครูฝึกเป็นอันดับแรก ทั้งนี้เพื่อที่จะได้มีการเตรียมตัวและต่อยอดรวมไปถึงการสร้างบุคลากรหรือผู้ที่จะมาอบรมให้กับผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ได้ทันตามกำหนดการที่ได้วางเอาไว้ในช่วงของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่จะมาถึงนี้
ซึ่งตอนนี้ค่ายรถจักรยานยนต์ Kawasaki เองก็ได้มีการเตรียมรับมือกันพอสมควรแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการสร้างบุคคลากรในส่วนของโรงเรียนสอนขับขี่เอกชนต่างๆ ที่จะต้องมีการจัดเตรียมแผนเป็นครั้งต่อปี ซึ่งแผนต่างๆเหล่านี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนในครั้งต่อไปเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละช่วงของเวลาและความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์
คราวนี้ก็ได้เวลาที่ผู้ขับขี่หรือผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จะต้องเตรียมตัวและเตรียมพร้อมกันให้ดีๆ ลองสังเกตุได้ว่ากฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาช่วงแรกก็จะเปิดโอกาสให้กับผู้ขับขี่หรือผู้ใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ได้ค่อยๆ ปรับตัวและตั้งหลักกันพอสมควร ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการปรับและพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่มีสาเหตุมาจากรถจักรยานยนต์เป็นหลัก เพราะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะได้เรียนรู้ถึงการควบคุมรถได้อย่างมีทักษะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้คันเร่ง การเบรก การขับขี่ในสถานการณ์คับขันให้สามารถขับขี่ผ่านไปได้อย่างปลอดภัย เพราะรถที่ ซีซี สูงเมื่อขี่มาด้วยความเร็วกำลังเครื่องยนต์จะมาเร็วกว่ารถเล็กๆ ที่ใช้ขับขี่กันทั่วไป ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งคือการใช้รถใช้ถนนอย่างมีสติและระมัดระวัง เพราะเดี๋ยวนี้จำนวนรถบนท้องถนนก็มีมากขึ้น
พูดคุยกับเราหรือปรึกษาก่อนซื้อ
