เก็บคองอเข่า ลดอันตรายจากอุบัติเหตุ

ในบางครั้งไม่ว่าจะมีความเชี่ยวชาญหรือความชำนาญมากขนาดไหนก็ยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ถึงแม้บางท่านจะมีประสบการณ์ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาอย่างโชกโชน หรือเรียกง่ายๆ คือสะสมไมล์มาหลายพันกิโลเมตร แต่ในบางเหตุการณ์เองก็ยากที่จะควบคุมได้ จึงทำให้เห็นการเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ส่วนความเสียหายนั้นจะมากหรือว่าน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้ความเร็วเป็นหลัก ยิ่งใช้ความเร็วมากเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะยิ่งเกิดความเสียหายมากเท่านั้น

ในความเสียหายนั้นถ้าเสียหายแค่รถก็ไม่เท่าไหร่ใช่ไหมล่ะครับ อย่างมากหาอะไหล่มาใส่ทดแทนของเดิมได้ แต่ถ้าหากเป็นร่างกายแล้วหากเกิดการสูญเสียก็ยากที่จะหาอะไรมาทดแทนได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันเอาไว้ก่อนจะน่าจะเป็นการแก้ไขที่ดีที่สุด

เก็บคอ งอเข่า เจ็บน้อยสุด

ในลักษณะการล้มหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ่อยมากกับคำว่า “ให้เก็บคอ งอเข่า” แล้วจะเจ็บน้อยที่สุดหรือปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งเป็นคำที่มีการถ่ายทอดกันมาอยู่เรื่อยๆ ส่วนจะทำได้จริงอย่างนั้นหรือไม่นั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นคำถามที่ยังไม่ค่อยมีใครออกมาตอบได้ชัดเจนสักเท่าไหร่ คราวนี้ลองมาดูกันว่าจะสามารถทำได้จริงอย่างคำที่ว่ากันหรือเปล่า

จากคำที่ได้ยินมาบ่อยๆ นั้น เชื่อหรือไม่ครับว่าคนที่พูดนั้นแทบจะไม่เคยขี่รถล้มมาก่อนหรือเคยเกิดอุบัติเหตุเลย ไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนไม่ขี่รถนะครับ แต่กลับกันเขาผู้นั้นอาจจะมีการขับขี่รถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษนั่นเอง ดังนั้นจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยมาก

รถล้มไม่สามารถควบคุมได้

สำหรับคนที่เคยเกิดอุบัติเหตุนั้น บางคนก็อาจจะบอกว่า “เก็บคอ งอเข่าไม่ทัน” แล้วก็ล้มไปแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งในหลักของความเป็นจริงแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ที่เราขี่มานั้นจะมีแรงเหวี่ยงที่มาพร้อมกับรถอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อรถล้มขึ้นมาทั้งรถและคนจะเกิดการกระแทก ในขณะเดียวกันร่างกายของเรายังมีแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของรถอยู่

ไม่ว่าจะเป็นรถหรือว่าร่างกายของเรา เมื่อรถเกิดการอุบัติเหตุล้มลง รถและร่างกายก็จะยังไถลหรือกลิ้งไปจนกว่าแรงเฉื่อยนั้นจะหมดไปเอง ถ้าหากเป็นตัวรถที่ล้มก็จะไถลไปตามแรงเหวี่ยงจนหยุดไปเอง จะไถลหรือหยุดในสภาพไหนนั้น ไม่อาจคาดเดาได้เลย

เมื่อเกิดอุบัติเหตุเราคงไม่สามารถควบคุมทิศทางการล้มได้

แน่นอนอยู่แล้วว่ารถไม่สามารถควบคุมทิศทางในการล้มได้เลย แล้วถ้าหากเป็นคนที่มีแรงเหวี่ยงมาจากรถที่เกิดอุบัติเหตุ จะสามารถควบคุมร่างกายได้หรือเปล่านั้น ก็ต้องบอกว่าถ้าเอาจริงๆ แล้ว เมื่อเกิดรถล้มลงไปแล้ว เชื่อว่าไม่มีใครที่สามารถควบคุมร่างกายได้เลย ทั้งร่างกาย แขน ขา จะมีแรงเหวี่ยงไปตามแรงที่เกิดขึ้น ถึงแม้ตัวเราจะมีสติยังไงก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายในขณะนั้นได้ บวกกับอาการตกใจจึงทำให้ยากที่จะควบคุมร่างกายให้เป็นไปตามคำกล่าวได้

ตัวอย่างอุบัติเหตุรถล้ม

ดังนั้น จึงเป็นไปได้ยากที่จะเก็บคอ งอเข่าได้หากเกิดการล้มหรืออุบัติเหตุขึ้นมา ในขณะเดียวกันเชื่อหรือไม่ว่า ในหัวของเราคิดอย่างเดียวเลยว่าเมื่อไหร่จะหยุด ถึงแม้บางครั้งถ้าหากลุกขึ้นมาแล้วอาจจะมองดูเหมือนว่าไถลมาไม่ไกลก็ตาม ดังนั้น คำที่มีการบอกกล่าวกันมานานกับการให้ เก็บคอ งอเข่า เมื่อเกิดเหตุจริงๆ แล้วจึงไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้เลย

ขนาดนักแข่งก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายตอนล้มได้

อย่างเช่นในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก เวลานักแข่งล้มลองสังเกตดูได้เลย นักแข่งระดับโลกเองก็ยังไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ยังต้องปล่อยให้ร่างกายกลิ้งไปกับพื้นของสนามแข่งจนกว่าจะหยุดเอง สิ่งที่จะเข้ามาช่วยซับแรงกระแทกให้กับนักแข่งได้นั้นก็คือ ชุดแข่งที่นักแข่งมีการสวมใส่นั่นเอง

โจนาธานเรีย การแข่งขัน wsbk

 เดี๋ยวนี้ชุดของนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์เป็นแบบแอร์แบล็กกันหมดแล้ว เวลารถล้มจะเห็นได้ว่าตัวนักแข่งจะพองทันที นั้นเป็นเพราะแอร์แบล็กทำงาน  ในกรณีเดียวกันถ้าหากร่างกายไถลไปกับถนนแล้วไม่ไปกระแทกกับอะไรก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดการกระแทกกับวัตถุใดวัตถุหนึ่ง ก็อาจจะเกิดอันตรายหรือเกิดการสูญเสียได้เหมือนกัน ส่วนมากที่เกิดการสูญเสียก็เพราะมาจากการกระแทกมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการกระแทกกับขอบถนน เสาไฟฟ้า หลักกิโลเมตร หรือ ขอบกั้นตรงบริเวณทางโค้ง

ทุกอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยตัวเอง หลักการง่ายที่สุดก็คือ ไม่ใช้ความเร็วจนเกินไป ปฏิบัติตามกฎจราจร อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือการใช้อุปกรณ์เซฟตี้ ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค เสื้อแจ๊คเก็ตที่มีเกราะอ่อน กางเกงสำหรับขี่รถที่มีการ์ดเข่าและสะโพก รวมไปถึงรองเท้าหุ้มส้น ถ้าใครยังไม่มีสามารถเข้าไปซื้อได้ตอนนี้ที่

   ควรที่จะหมั่นเรียนรู้การขับขี่และฝึกฝนบ่อยๆ

สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันการกระแทกให้กับร่างกายได้หากเกิดอุบัติเหตุ อย่างน้อยก็ช่วยให้จากหนักกลายเป็นเบาได้ อีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การขับขี่เกิดความปลอดภัยได้นั้นก็คือ การรู้จักรถ การรู้จักตัวเอง และสามารถประเมินสภาพแวดล้อมได้ การรู้จักรถก็คือเราต้องรู้ว่ารถมีอาการแบบไหนกำลังเครื่องยนต์เป็นยังไง ส่วนการรู้จักตัวเองก็คือเราต้องรู้ตัวเองว่าสามารถคุมความเร็วหรือควบคุมรถได้ในระดับไหน เพราะเชื่อได้ว่าทุกคนมีทักษะการขับขี่ที่ไม่เท่ากัน สำหรับท่านใดอยากเรียนรู้การขับขี่ที่ปลอดภัยเพิ่มเติมสามารถเข้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่

เรียนขับขี่ปลอดภัยสำหรับบิ๊กไบค์

 และสุดท้ายก็คือการประเมินสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมด้านหน้าได้ อย่างเช่นในบางครั้งต้องคาดเดาให้ได้ว่าจะมีรถเปลี่ยนช่องทางเข้ามาในพื้นที่ของเราหรือไม่ จะมีอะไรที่มาตัดหน้าเราหรือไม่ด้วยนั้นเอง สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่จะทำให้การขับขี่เกิดความปลอดภัยในการขับขี่มากที่สุด เรื่องการขับขี่ยังไงก็ให้คำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุดครับ

พูดคุยกับเราหรือปรึกษาก่อนซื้อ

inbox

LINE