11 เทคนิคเอาตัวรอดออกทริป ฉบับ DimsumRacer
1. หลังรถบรรทุกจะมีรถแซงสวนเลนเสมอ
คนขับรถยนต์บ้านเราใจร้อน หลายครั้งแซงสวนเลนขึ้นมาโดยไม่สนใจ แม้ว่ารถของเราจะขับขี่มาอยู่ในเลนถูกต้องก็ตาม ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง ทุกครั้งที่เราเห็นรถใหญ่วิ่งในเลนตรงข้าม โดยเฉพาะถนน 2 เลนสวน ให้จินตนาการไว้ว่า จะมีรถใจร้อนแซงสวนเลนขึ้นมาแน่นอน เราจะได้เตรียมหาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าจะหลบอย่างไรไหล่ทางดีไหม เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว ขี่ออกทริปยาวๆ จะเจอลักษณะนี้มากเป็น 10 ครั้งเลยทีเดียว

2. ทุกจุดตัดบนถนน มีรถออกมาเสมอ
เป็นการฝึกป้องกันไว้ก่อนเหมือนข้อแรก เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นว่ามีจุดตัดบนถนน ทางแยก หรือซอยย่อยต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งชุมชน ให้จินตนาการว่า จะมีรถ หรือคนออกมาจากแยกหรือซอยนั้นๆ เราจะได้ลดความเร็วลงให้เหมาะสม เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เมื่อมีรถหรือคนออกมาจริง เราจะสามารถชะลอ หรือหยุดได้อย่างปลอดภัย

3. รถทุกคันบนถนนขับขี่ชุ่ยหมด
หากเราระแวงว่ารถรอบๆ ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ทุกคนกำลังขับขี่โดยประมาทและพร้อมที่จะทำอะไรแปลกๆ ได้เสมอ เช่น หักปาดหน้า เบรกกะทันหัน จะช่วยให้เราฝึกนิสัย เผื่อเอาไว้ ทั้งระยะและความเร็ว เมื่อต้องหลบหลีกจริงๆ ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย เพราะกะระยะเผื่อเอาไว้แล้ว

4. รัศมีรอบรถ ใครก็ห้ามผ่านเข้ามา
จินตนาการไว้ว่า เรามีเขตแดนวงกลมล้อมรอบรถตัวเองอาจจะ 2-4 เมตร แล้วแต่สภาพการณ์จราจรบนถนน และเราจะไม่ยอมให้รถคันไหนก็ตามผ่านเข้ามาในเขตแดนนี้เด็ดขาด เช่น เมื่อจู่ๆ มีรถเร่งขึ้นมาขนาบข้าง หรือจี้ท้าย ใกล้เข้ามาในระยะเขตแดน ให้เราตัดสินใจว่าจะบิดหนี เบี่ยงหลบ หรือชะลอเพื่อให้รถคันนั้นผ่านไปก่อน รักษาระยะเขตแดนสมมุตินี้ไว้ตลอดเวลา หมั่นมองสำรวจโดยรอบและในกระจกเสมอ เทคนิคนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก

5. ใช้ GPS เป็นตาคู่ที่สอง จากบนฟากฟ้า
นอกจาก GPS จะช่วยนำทางแล้วข้อดีอีกอย่างคือ เราสามารถมองเห็นสภาพของโค้งต่างๆ ได้ล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมเข้าโค้งได้ง่าย หลายโค้งมีลักษณะหลอกตา มองไปดูเหมือนเป็นโค้งสั้นๆ แต่กลับกลายเป็นโค้งยาว แต่จะไม่สามารถหลอกได้ถ้าเราเห็นภาพจากบนฟ้าจะโค้งหักศอก โค้งตัว S ก็ปรากฏชัดเจน ถึงแม้เราจะขี่ตามไปเป็นกลุ่ม ไม่จำเป็นต้องมี GPS นำทางก็ตาม ก็เชื่อใจคนที่ขี่นำไม่ได้เสมอไป อาจจะพาคนที่ตามมาเข้าโค้งเร็วเกิน พลาดได้ง่ายๆ สมัยนี้ GPS ราคาไม่แพง หรือจะใช้ในโทรศัพท์ก็ได้ หาขายึดดีๆ หรือกระเป๋าหน้ารถใส่ เตรียมที่ชาร์จ usb หรือ power bank ไว้ให้พร้อม รับประกันได้เลยว่าจะช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัยขึ้นมากๆ

6. ให้สัญญาณก่อนเข้าโค้งที่มีจุดบอด
เส้นทางต่างๆ โดยเฉพาะทางในเขาจะมีโค้งหรือเนินที่เราไม่สามารถมองเห็นรถที่อาจจะสวนมาได้เลย ดังนั้นหากเป็นเวลาตอนกลางวันเราสามารถให้สัญญาณเตือนล่วงหน้า บีบแตรสั้นๆ สองที หรือในตอนกลางคืนจะดริฟไฟหน้าสั้นๆ หรือกะพริบไฟสูงต่ำ เพื่อเป็นการเตือนล่วงหน้าสำหรับรถที่สวนมาให้ระวัง

7. อย่ากลัวที่จะใช้แตร
เชื่อไหมว่า การกดแตรเตือนสั้นๆ ปิ๊นๆ 2 ทีล่วงหน้าก็สามารถลดอุบัติเหตุได้มาก เช่น เมื่อใดที่เราเห็นหมาแมวกำลังจะเดินข้ามถนนโดยไม่มอง เด็กวิ่งเล่นข้างถนน ให้กดแตรสั้นๆ เตือนล่วงหน้าจากระยะที่ไกลพอสมควร ในบ้านเราการกดแตรลากยาวมักถูกตีความว่าเป็นการหาเรื่อง ดังนั้นจึงควรประเมินเอาตามสถานการณ์ แม้เราจะปลอดภัยในจังหวะแรก แต่อาจถูกคนพาลตามมาหาเรื่องทีหลังแทน

8. ระวังสีต่างๆ บนถนน
ถนนคอนกรีตที่สะอาดจะมีสีเทา ถนนลาดยางจะมีสีดำ สีอื่นๆ นอกจากนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เส้นสีดำยาวๆ กลางถนนคอนกรีตอาจจะเป็นคราบน้ำมันเครื่อง หรือน้ำยางสีน้ำตาลบนถนนอาจหมายถึงทราย สีเขียวอาจเป็นคราบตะไคร่ที่ลื่นมาก หากถนนคอนกรีตเปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีขาวอาจหมายถึงถนนชำรุด อีกทั้งแอ่งน้ำขังต่างๆ ที่อาจเป็นหลุมลึก เมื่อใดที่ถนนเปลี่ยนสีให้เตรียมพร้อม เลี่ยงไม่วิ่งทับได้จะดีที่สุด นอกจากนี้สีที่ทางการทา เช่น เส้นประถนนหรือสีแดงที่เตือนชะลอความเร็วในโค้ง มักจะลื่นเป็นพิเศษเมื่อวิ่งผ่านสีเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปรกติ


9. เตรียมพร้อมทางหนีทีไล่
เพราะถนนสาธารณะไม่ใช่สนามแข่ง เทคนิคการเข้าโค้งแบบไลน์สนามแข่งไม่สามารถใช้บนท้องถนนได้เสมอไป เราควรคิดเสมอว่าหากมีรถสวนขึ้นมา หรือขณะเข้าโค้งเจออุปสรรคที่จำเป็นต้องหยุดรถกะทันหัน เช่น ท้ายแถวรถที่กำลังติดอยู่ หากเข้าสุดตัวเบนเข่าเช็ดพื้นจะไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา การขับขี่แบบความปลอดภัยมาก่อนนั้น หากเจอสิ่งของขวางหน้า เราต้องเลือกไลน์ที่สามารถตั้งรถตรง กดเบรกมิดจนรถหยุดได้สนิท หากเป็นโค้งชันในเขาให้คิดเสมอว่า ถ้าจำเป็นต้องหยุดรถกลางโค้งจริงๆ ณ ขณะนั้นจะเอาเท้าไหนลงพื้นก่อน จะเอียงรถถ่ายน้ำหนักไปทางไหน เพื่อจะได้ไม่ล้มแปะกลางโค้ง หากจินตนาการไว้บ่อยๆ เมื่อเจอทางลักษณะเดียวกัน ร่างกายก็สามารถตอบสนองได้ทันที
10. มอเตอร์ไซค์คือสัตว์เล็กในป่าใหญ่
ถึงแม้มอเตอร์ไซค์จะคล่องแคล่วว่องไวกว่ายานพาหนะอื่นๆ แต่ด้วยขนาดที่เล็ก ก็ถือว่าเรามีความเปราะบางบนท้องถนนรองจาก คนเดิน และจักรยานเท่านั้น อย่าได้คิดว่ารถเราแรง จะอาจหาญท้ารบ ตบตีกับบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรด อย่างรถยนต์ รถกระบะ รถบรรทุก ด้วยมวลที่ต่างกันมาก แค่รถมอเตอร์ไซค์โดนสะกิดเล็กน้อย ก็สามารถเสียการควบคุม เกิดอุบัติเหตุถึงชีวิตได้ โดยที่ยานพาหนะคู่กรณีไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ หากหมาป่าลำพองว่าตัวเองเป็นราชสีห์ เข้าไปป้วนเปี้ยนใกล้ช้าง ก็จะถูกเหยียบเข้าสักวันแน่นอน ดังนั้นหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เลี่ยงเข้าใกล้รถใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นึกไว้เสมอว่าเราคือสัตว์เล็กในป่าใหญ่


11. ช่วงเวลาดวงอาทิตย์กำลังขึ้นและกำลังตก จอดพักดีกว่า
นอกจากช่วงเวลาดังกล่าว แสงโพล้เพล้ การมองเห็นไม่ชัดเจน ยังเป็นช่วงเวลาที่ยุงออกบินว่อนเป็นจำนวนมาก เข้าปาก เข้าจมูก ถ้าหมวกไม่มีชิลด์ก็เข้าตา ที่แย่กว่านั้นคือพุ่งชนกับตัวรถ หมวกกันน้อค เห็นเป็นซากยุงตายเกลื่อนดูไม่จืด แถมทำความสะอาดลำบากต้องล้างออกอย่างเดียว ดังนั้นถ้าเลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าวได้ ก็ควรเลี่ยง หลบเข้าปั๊มน้ำมันแวะทานอาหาร ทานกาแฟ ให้ฟ้าเปลี่ยนสีเสร็จสิ้นแล้วค่อยออกเดินทางต่อ จะช่วยให้การเดินทางน่าอภิรมย์ขึ้นครับ

ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า