7 จุดสำคัญในการขี่บิ๊กไบค์ ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ คนน่าจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ที่ผมจะเขียน แต่ผมอยากให้เราเริ่มสนใจและใส่ใจสักนิด เพราะนอกจากจะทำให้ทุกคนขับขี่ได้อย่างสนุกมากขึ้นแล้ว ยังทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
การวางเท้าทั้งซ้ายและขวา
อ่านไม่ผิดครับ การวางเท้า งงใช่ไหมล่ะครับว่าทำไมการวางเท้าถึงสำคัญขนาดนั้น เราไปอ่านกันต่อเลยครับ เราจะใช้บริเวณจมูกเท้าในการวางบนแป้นพักเท้า สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการเอาเท้าสอดไว้ใต้ที่เปลี่ยนเกียร์ และการเอาเท้าวางแตะไว้ที่เหยียบเบรกหลัง
สิ่งที่ควรทำคือ การเก็บเท้าทั้ง 2 ข้าง เอาไว้ที่พักเท้า เมื่อต้องการเปลี่ยนเกียร์ค่อยเลื่อนเท้าซ้ายไปเตะเกียร์ หลังจากนั้นดึงกลับมาที่เดิม ส่วนฝั่งขวาเมื่อเราต้องการใช้เบรกให้ทำการเลื่อนเท้าขวาไปเหยียบเบรกแล้วดึงกลับมาที่เดิม
สาเหตุที่เราต้องทำแบบนี้ก็เพราะเมื่อเราเกิดอุบัติเหตุขึ้น เท้าจะเป็นจุดแรกที่สัมผัสพื้นก่อน ถ้าเราเอาเท้าไว้ผิดตำแหน่ง นั่นหมายถึงเท้าเราจะถึงพื้นได้เร็วขึ้น อาจจะบาดเจ็บหนักได้
หัวเข่าหนีบไว้ไม่เสียหาย
ใช่แล้วครับ เมื่อเท้าเราวางในตำแหน่งที่ถูกแล้ว หัวเข่าเราก็ต้องวางในตำแหน่งที่ถูกด้วยเช่นกันครับ การหนีบถังน้ำมัน เราหนีบแค่พอดีๆ ไม่ต้องถึงขั้นใช้แรงหนีบมากเกินไปนะครับเดี๋ยวตะคริวขึ้นซะก่อน
สาเหตุที่ผมให้หนีบถังน้ำมันเอาไว้ก็เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุถ้าเราไม่หนีบถังตัวเราจะลอยออกจากรถ หรือในกรณีที่เราขี่ตกหลุม เราจะเสียหลักการทรงตัวทำให้รถล้มได้ แต่ถ้าเราหนีบเอาไว้ เมื่อรถตกหลุมตัวเราจะไม่เสียหลักการทรงตัว ทำให้สามารถควบคุมรถได้
เก็บสะโพกไว้โยกรถ
การขับขี่บิ๊กไบค์ขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะบวกกับความเร็ว เราจะไม่สามารถใช้การเลี้ยวแบบปกติได้เหมือนรถเล็กด้วยน้ำหนักของตัวรถและความเร็วที่มากกว่า ทำให้การเลี้ยวแบบปกติอาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งานจึงจำเป็นต้องใช้สะโพกในการโยกรถไปทางซ้ายและขวา
สะโพกจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเลี้ยวให้กับเรา เวลาเราจะเลี้ยวขวาเราก็เอียงสะโพกไปด้านขวาเล็กน้อย เวลาจะเลี้ยวซ้ายเราก็เอียงสะโพกไปด้านซ้ายเล็กน้อย
สะโพกจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเลี้ยวให้กับเรา เวลาเราจะเลี้ยวขวาเราก็เอียงสะโพกไปด้านขวาเล็กน้อย เวลาจะเลี้ยวซ้ายเราก็เอียงสะโพกไปด้านซ้ายเล็กน้อย
หลังและไหล่
ในการขับขี่บิ๊กไบค์เราจะไม่นั่งหลังตรงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้ในกรณีที่ขี่นานๆ หรือบางท่านที่ขี่ Naked อาจจะนั่งด้วยท่านั่งที่สบาย ถ้าหลังเราแอ่นแขนทั้ง 2 ข้างของเราก็จะตึงตามไปด้วยทำให้การเลี้ยวทำได้ยาก และน้ำหนักจะถูกกดลงมาอยู่ที่ข้อมือ สังเกตจากการขับขี่ของหลายๆ คนที่จะมีอาการปวดข้อมือ เราจะโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้แขนไม่ตึงและหลังไม่ตั้งตรงจนเกินไป
ข้อศอก
การขี่รถแขนตรงถามว่าสามารถทำได้หรือไม่ ผมก็คงต้องตอบว่าทำได้ครับ แต่มันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในการขับขี่บิ๊กไบค์ครับ การขี่ที่ถูกต้องข้อศอกควรงอเล็กน้อย ถ้าในกรณีวางแขนตึงเวลาที่เราเลี้ยวรถแขนจะติดทำให้เลี้ยวได้ไม่สุด ซึ่งมันจะดูฝืนๆ ไปหน่อย บางครั้งการเลี้ยวด้วยศอกที่ตึงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกันครับ อุบัติเหตุในที่นี้อาจจะรถเอียงล้มได้เช่นกันครับ
การวางมือที่แฮนด์ทั้ง 2 ข้าง
การวางมือในรูปแบบ V Grip เป็นการวางมือให้เฉียงออกด้านข้างเล็กน้อย ถ้าใครเคยตีแบตมินตันน่าจะพอนึกออกเวลาจับไม้แบตจะคล้ายๆ กับการวางมือบนแฮนด์ทั้งสองข้าง โดยที่ฝั่งนิ้วโป้งจะบิดเข้าหากันนิดเดียว ว่าแต่ทำไมเราต้องวางมือแบบ V Grip การวางมือทั้งสองข้างแบบปกติ เวลาขี่ไปนานๆ จะเกิดอาการเส้นเอ็นอักเสบได้ ดังนั้นการวางมือแบบ V Grip จึงตอบโจทย์ได้มากที่สุด
ส่วนการใช้นิ้วในการกำเบรกและคลัทช์ แน่นอนครับตามปกติแล้วเราจะใช้ 4 นิ้วในการกำเบรกหน้าหรือคลัทช์เหลือเพียงนิ้วโป้งที่ยังเกี่ยวกับคันเร่งเอาไว้ ถามว่าทำได้ไหม ผมก็คงต้องตอบแบบเดิมเลยครับว่าทำได้ครับ แต่เมื่อรถตกหลุม หรือเกิดอาการสะบัดถ้าเราใช้เพียงนิ้วโป้งในการเกี่ยวคันเร่งเอาไว้นั้นอาจจะหลุดออกจากแฮนด์ได้ง่ายมากๆ ครับ
สายตา
ทำไมผมถึงบอกว่าสายตานั้นสำคัญ เพราะเมื่อเรามองไปจุดไหนรถก็จะตามไปยังจุดที่เรามอง เมื่อเราเลี้ยวซ้ายสายตาเราควรมองไปที่โค้งด้านซ้าย เมื่อเราเลี้ยวขวาสายตาควรมองไปที่โค้งด้านขวา ในข้อนี้อาจจะดูยากไปหน่อย แต่สำหรับท่านใดอยากฝึกซ้อมหรือศึกษาการขี่ที่ถูกต้อง สามารถติดต่อสอบถามเรื่อง Basic Riding Course ที่เราเปิดสอนได้ครับ
และนี่คือ 7 จุดสำคัญที่ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ มองข้ามไปครับ นอกจากจะทำให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นครับ ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ ในครั้งหน้าเราจะมีบทความสาระความรู้ดีๆ อะไรอีกสามารถติดตามได้ที่เพจ Real MotoSports หรือเว็บไซต์ realmotosports.com ครับ
