ขี่รถบิ๊กไบค์จะติด Quick Shifter ดีมั้ย ?

[vc_row][vc_column][vc_column_text]

ขี่รถบิ๊กไบค์จะติด Quick Shifter ดีมั้ย ?

[/vc_column_text][vc_column_text]

ปัจจุบัน รถบิ๊กไบค์ได้มีการพัฒนาด้วยวิธีการนำเทคโนโลยี และการใส่ออฟชั่นเข้ามาในตัวรถมากขึ้น รวมไปถึงตัว Quick Shifter  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมสมรรถนะอีกหนึ่งชิ้น ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นและสามารถอำนวยความสะดวกในการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว  จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า มันจำเป็นแค่ไหนสำหรับการติดตั้ง Quick Shifter แล้วรถรุ่นไหนสามารถติดตั้งได้บ้าง…??? ศูนย์คาวาซากิ Real Motosports มีคำตอบให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

[/vc_column_text][vc_single_image image=”7706″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

ในหลายๆรุ่นของรถบิ๊กไบค์ยุคนี้ได้มีการใส่ออฟชั่นเข้ามามากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อสมรรถนะของการขับขี่รวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัย คล้ายกับเป็นตัวช่วยให้กับผู้ขับขี่ ขี่รถได้ง่ายขึ้นนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโหมดการขับขี่หรือระบบต่างๆที่ติดมากับตัวรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้เหมาะสมกับตัวเองและสภาพถนนในขณะนั้น

ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของการพัฒนาให้รถสามารถขับขี่ได้สนุกมากขึ้น โดยที่ส่วนหนึ่งก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสนามแข่งด้วยเช่นกัน ซึ่งอุปกรณ์หลายอย่างที่ถูกนำมาใช้จากสนามแข่งนั้นล้วนเป็นอุปกรณ์ที่เสริมในเรื่องสมรรถนะของการขับขี่ แต่ทว่าไปแล้วในสนามแข่งอุปกรณ์เหล่านั้นถูกมุ่งประโยชน์ไปเพื่อให้นักแข่งสามารถทำความเร็วให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคของนักแข่งโดยอยู่ภายใต้กติกาที่ถูกกำหนดเอาไว้ [/vc_column_text][vc_single_image image=”7659″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

“Quick Shifter”

[/vc_column_text][vc_column_text]

อย่างเช่น  “Quick Shifter” คือเทคโนโลยีอีกตัวหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสนามแข่ง และได้ถูกนำมาใช้กับรถบ้านหรือว่ารถถนน ประโยชน์ของการนำมาใช้ในรถบ้านทั่วไปนั้นก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่ขี่รถได้สนุก ท้าทายและเป็นเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่เป็นหลัก ซึ่งในรถ Kawasaki ที่มีติดมาจากโรงงานเลยก็จะมีอยู่ในรุ่นของ Kawasaki ZX6R, Kawasaki ZX10R และ Kawasaki Ninja H2

[/vc_column_text][vc_column_text css=”.vc_custom_1549260815583{margin-top: 30px !important;}”]

 ก่อนที่จะติดเจ้า Quick Shifter เข้ากับตัวรถลองมาดูถึงหน้าที่การทำงานกันสักหน่อย สำหรับหน้าที่ของ Quick Shifter

[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”7661″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_column_text]

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การสับเปลี่ยนเกียร์นั้นทำได้ง่ายขึ้น โดยเจ้าตัว Quick Shifter จะไปตัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์โดยผ่านกล่อง ECU ที่ควบคุมการจุดระเบิดของเครื่องยนต์เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่ว่ายังสามารถรักษารอบเครื่องยนต์เอาไว้ได้ ในจังหวะนั้นทำให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ทันที นั่นหมายความว่าสามารถสับเปลี่ยนเกียร์ได้โดยที่ไม่ต้องกำคลัทช์หรือว่าต้องยกคันเร่ง ทำให้รอบเครื่องยนต์สามารถส่งต่อกำลังได้อย่างต่อเนื่องเป็นการทำงานแบบรวบยอดเอาไว้เพียงแค่งัดเกียร์เท่านั้น

[/vc_column_text][vc_column_text]

เมื่อไหร่ที่งัดเกียร์ระบบเซ็นเซอร์จะส่งการประมวลผลทันที ถ้าเป็นในสนามแข่งจะสามารถทำเวลาได้ดีขึ้นเพราะไม่ต้องมานั่งใช้คลัทช์ แต่ถ้าหากเป็นรถใช้งานทั่วไปแล้วแน่นอนว่าจะช่วยให้การขับขี่สะดวกและง่ายมากขึ้น จะเห็นผลมากในเครื่องยนต์ที่มีกำลังแรงม้าเยอะหรือว่า ซีซี สูง เจ้าตัว Quick Shifter ที่มีอยู่ใน Kawasaki ZX6R จะเป็นตัวที่งัดเกียร์ขึ้นหรือว่า Quick Shifter UP เพียงอย่างเดียวส่วนการลดเกียร์หรือว่าเชนเกียร์ลงจะยังต้องกำคลัทช์ก่อน

[/vc_column_text][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_column_text css=”.vc_custom_1549261082195{margin-top: 30px !important;}”]

แต่ว่าด้วยระบบของรถที่มีออฟชั่น Slipper Clutch ที่ช่วยป้องกันล้อล็อคไว้อยู่แล้ว ถ้าหากลดความเร็วเกียร์ลงมาหรือที่เรียกกันว่า “การรวบเกียร์” ก็จะไม่ทำให้รถเกิดอาการล้อล็อคนั้นเอง ส่วนในรุ่นของ ZX10R และ H2 สามารถใช้ได้ทั้งเพิ่มเกียร์และลดเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัทช์ ทั้ง 2 รุ่นถือเป็นรถใช้งานทั่วไปที่ถูกติดตั้ง Quick Shifter เอาไว้จากโรงงาน ซึ่งในรถที่มีกำลังรอบสูงๆต้องบอกว่าเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยได้เยอะ นอกจากจะทำให้การเปลี่ยนเกียร์ง่ายแล้ว ยังทำให้การเปลี่ยนเกียร์ไหลลื่นด้วยโดยที่กำลังไม่ตก

[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”7664″ img_size=”full” alignment=”center”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”7669″ img_size=”full” alignment=”center”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_column_text css=”.vc_custom_1550284473231{margin-top: 30px !important;}”]

 สำหรับรถที่ไม่ได้ติด Quick Shifter มาจากโรงงานนั้น อุปกรณ์ตัวนี้สามารถมาติดเพิ่มได้ทีหลัง ส่วนมากแล้วจะติดได้ในรถทุก ซีซี ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากจะใช้อุปกรณ์ตัวนี้ ราคาค่าตัวก็จะอยู่ในงบประมาณหลักพันไปจนถึงสามหมื่น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและการป้อนข้อมูลในการประมวลผลให้ Quick Shifter นั้น ทำงานอย่างที่บอกไปบางรุ่น UP ได้อย่างเดียวไม่มี DOWN บางรุ่นได้มาครบชุด ทั้ง UP และ DOWN ถ้าเป็นตัวแพงๆก็จะมีความละเอียดในเรื่องของการให้ความต่อเนื่องของรอบเครื่องยนต์

[/vc_column_text][vc_single_image image=”7666″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

ส่วนการใช้งานแน่นอนว่าถ้าใครได้ลองใช้แล้วรับรองว่าสนุกกับการขับขี่ในทุกรอบความเร็ว เทคโนโลยีตัวนี้ส่วนมากจะใช้ในรถที่มีขนาดความจุ ซีซี สูงๆทั้งนี้ก็เพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องใช้คลัทช์เพราะด้วยกำลังเครื่องยนต์ขนาดนั้นถ้าหากใช้คลัทช์แล้ว จังหวะที่ใช้คลัทช์ก็อาจจะทำให้ศูนย์เสียกำลังในช่วงนั้นไปรวมไปถึงจังหวะที่คลัทช์จับก็ทำให้เกิดการกระชากของเครื่องยนต์ได้ ถ้าไม่ค่อยคุ้นกับความเร็วในจังหวะที่คลัทช์จับช่วงนั้นอาจจะทำให้ตัวผู้ขับขี่เสียจังหวะได้เช่นกัน ดังนั้นการนำ Quick Shifter มาใช้จึงเป็นเรื่องของความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และปลอดภัยมากขึ้น

แต่ถ้าหากเป็นในสนามแข่ง Quick Shifter จะเป็นเรื่องของเทคนิคการขับขี่มากกว่าความสะดวกสบาย ในรถแข่งอาจจะมีการตั้งรอบเอาไว้ให้กับนักแข่งใช้แล้ว แต่ว่านักแข่งคนนั้นจะถนัดกับการใช้ Quick Shifter ในรอบเครื่องยนต์ช่วงไหน รวมไปถึงป้องกันนักแข่งเกิดไปโดนเกียร์ในรอบต่ำหรือว่าในขณะที่รถอยู่ในโค้งนั่นเอง[/vc_column_text][vc_single_image image=”7665″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

เป็นอันว่า Quick Shifter นั้นสามารถติดได้ในรถทุก ซีซี และเป็นอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกกับผู้ขับขี่ ถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถค่อนข้างเร็วแล้วก็จะเห็นผลของการทำงานมากกว่า จะเห็นได้ว่ารถเล็กๆจะไม่ค่อยนิยมติดกันเท่าไหร่ ถ้าเป็นรถบิ๊กไบค์ก็เริ่มนิยมกันมากขึ้นเพราะว่าทำให้ขี่ได้สนุกเครื่องยนต์มีความต่อเนื่อง ส่วนผลเสียก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและการติดตั้งเพราะบางรุ่นมีออฟชั่นที่สามารถตั้งค่าการใช้งานตามรอบเครื่องยนต์ได้ รวมถึงการตั้งค่าการใช้งานให้เกียร์นุ่มหรือว่าแข็งได้เลยก็ต้องมานั่งจูนกันเป็นวันเช่นกัน

[/vc_column_text][vc_single_image image=”7677″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

ถ้าพูดไปแล้วก็จะค่อนข้างลึกทีเดียวเพราะเป็นเรื่องของเทคนิคไปแล้ว ซึ่งผู้ใช้อย่างเราๆบางทีฟังแล้วก็ยัง..งง..อยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากใครที่สนใจต้องการติดเจ้าตัวอุปกรณ์ Quick Shifter ก็สามารถติดได้และควรเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ผู้ใช้งานควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่นำมาใช้อย่างละเอียด รวมถึงควรเลือกติดตั้งกับศูนย์บริการที่มีความชำนาญและพร้อมดูแลรถของคุณเป็นอย่างดี ก็จะทำให้คุ้มค่าเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่เสียไป ศูนย์คาวาซากิ Real MotoSports เรายินดีให้คำปรึกษาและพร้อมให้บริการทุกความต้องการเกี่ยวกับรถของคุณ

[/vc_column_text][vc_single_image image=”5589″ img_size=”medium” alignment=”center” css=”.vc_custom_1549263517305{margin-top: 30px !important;}”][vc_column_text]

บทความโดย สะบัดคันเร่ง

คลุกคลีเรื่องรถมอเตอร์ไซค์มาร่วม 20 ปี ขี่รถทุกรูปแบบทั้งในประเทศ ต่างประเทศและสนามแข่ง ขอให้เป็นสองล้อขี่ได้หมด และยังพร้อมเติมประสบการณ์กับคันเร่งต่อไป[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/4″ offset=”vc_hidden-xs”][/vc_column][vc_column width=”1/4″ offset=”vc_col-xs-6″][vc_single_image image=”6767″ img_size=”full” onclick=”custom_link” link=”https://line.me/R/ti/p/@realmotosports”][/vc_column][vc_column width=”1/4″ offset=”vc_col-xs-6″][vc_single_image image=”6766″ img_size=”full” onclick=”custom_link” link=”https://m.me/realmotosports”][/vc_column][vc_column width=”1/4″ offset=”vc_hidden-xs”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_empty_space][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/3″][/vc_column][vc_column width=”1/3″][vc_single_image image=”7309″ img_size=”full” onclick=”custom_link” link=”https://realmotosports.com/promotions/”][/vc_column][vc_column width=”1/3″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_empty_space height=”64″][/vc_column][/vc_row]

Share this post :

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us​