ขี่รถวิบากทำไมต้องเอาขาชี้ไปข้างหน้า ทำไปทำไมเพื่อ..??

ทำไมขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเข้าโค้งต้องเอาขาลงพื้น เรื่องศาสตร์ของการขี่รถมอเตอร์ไซค์ยังเป็นอะไรที่ต้องหาคำตอบกันไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในรูปแบบของทางเรียบหรือว่าทางฝุ่น นอกจากเรื่องของรถที่มีการพัฒนาแล้ว เรื่องของท่าทางการขับขี่ก็ต้องมีการพัฒนาหรือว่าปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้มีความเหมาะสมกับความเร็วในแต่ละรูปแบบด้วยเช่นกัน

ซึ่งเป็นการเพิ่มเทคนิคการขับขี่เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้นและทำความเร็วได้นั้นเอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถแบบไหนการที่ใช้ท่าทางเข้ามาควบคุมรถให้สามารถไปตามที่ต้องการนั้นก็จะยังเป็นทักษะที่ต้องฝึกและพัฒนากันต่อไป ในเรื่องของการขับขี่ทางเรียบหลายคนก็คงจะทราบกันไปแล้วว่ากับบทความจำเป็นมั้ย เริ่มต้นขี่รถในสนามแล้วเข่าต้องเช็ดพื้นและศอกกางออกมาอย่างเช่นรถแนวสปอร์ต Ninja 400, Ninja ZX-10R, Ninja ZX-6R, หรือที่เราเรียกันว่าเข่าเช็คพื้น เช่นเดียวกันในอีกมุมหนึ่งของการขับขี่กับรูปแบบของการขับขี่รถวิบากหรือว่าขี่รถทางฝุ่นก็จะมีลักษณะท่าทางการขับขี่ที่แตกต่างไปจากการขับขี่รถทางเรียบหรือว่ารถรอบโดยรถแนววิบากที่สามารถหาได้ตามทั่วไปเช่น KLX 150 KLX 150BF KLX250

[no_toc]

ขี่เอ็นดูโร่ทำไม่ต้องเอาขาลง

ใครที่ดูการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์วิบากหรือว่าทางฝุ่นหรือว่าจะรายการไหนก็แล้วแต่ที่เป็นรถวิบาก ท่าหนึ่งที่เห็นกันบ่อยจนเกิดคำถามกันขึ้นมาว่า “ทำไมต้องเอาขาลงพื้นเวลาเข้าโค้งด้วย…?”  สำหรับท่าทางการเข้าโค้งของรถวิบากรวมไปถึงรถโมตาร์ทที่เป็นลูกผสมระหว่างรถการขี่ทางฝุ่นและทางเรียบนั้น ไม่ว่าจะขี่เข้าโค้งซ้ายหรือว่าโค้งขวาผู้ขับขี่ก็จะต้องเอาขาข้างที่อยู่ด้านในของโค้งแตะออกมาข้างหน้า

supetmoto
การเข้าโค้งของทางฝุ่น

ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องของการขับขี่ อย่างแรกก็คงต้องรู้จักชื่อของท่าทางของการเข้าโค้งแบบนี้กันก่อนกับชื่อที่เรียกกันว่า Lean Out (ลีนเอ้าท์) การขี่เข้าโค้งแบบนี้ผู้ขับขี่จะต้องโยกตัวเองออกจากตัวรถไปในฝั่งตรงข้ามกับโค้ง ในขณะที่รถยังเอียงไปตามโค้งนั้นอยู่ ท่านี้ถึงถูกนำมาใช้กับรถวิบากมากที่สุด แต่ท่านี้ก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน โดยเฉพาะโค้งแคบๆ ที่ความเร็วไม่สูงมากนักจะทำให้ควบคุมรถได้ง่าย…..

มาดูกันต่อที่การนำมาใช้กับรถวิบาก ในการขับขี่รถวิบากจำเป็นต้องใช้ท่านี้เข้ามาควบคุมรถที่มีมิติตัวรถสูง บวกกับตัวพื้นเองก็ไม่ใช่พื้นลาดยางเหมือนกับทางเรียบ แต่เป็นทางดินหรือว่าทางฝุ่นที่ไม่ปลอดภัยแน่ที่จะเข้าโค้งแบบทางเรียบที่เรียกกันว่า Lean In (ลีนอิน)เพราะด้วยสภาพพื้นที่ไม่เรียบจะทำให้ผู้ขับขี่ตกรถได้ทันที แต่การขับขี่แบบ Lean Out (ลีนเอ้าท์) ที่ต้องโยกตัวมาอีกฝั่งในขณะเข้าโค้ง จะช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีกว่า โดยที่แขนที่อยู่ด้านในโค้งจะต้องยืดตรึง ในขณะที่แขนที่อยู่ด้านนอกโค้งนั้นจะต้องตั้งศอกวางขนานกับตัวแฮนด์รถ

สนใจโปรโมชั่นคาวาซากิ
ขี่เอ็นดูโร่ทำไม่ต้องเอาขาลง 2

ตำแหน่งท่านั่งในรถวิบากผู้ขับขี่จะต้องขยับมาให้อยู่ด้านหน้าให้ใกล้กับแฮนด์รถมากที่สุด เพื่อถ่ายเทน้ำหนักมากดรถด้านหน้า พร้อมกับขาที่อยู่ด้านนอกโค้งจะต้องกดและแนบหรือว่าหรีบรถไปเลยก็ได้ เพื่อช่วยหนีบนรถให้รถเกิดอาการต้านน้อยที่สุด ส่วนขาที่อยู่ด้านในโค้งก็จะเตะไปด้านหน้าหรือว่าเอาขาลงพื้น นี่คือท่าทางการเข้าโค้งของรถวิบากที่แตกต่างกับทางเรียบอย่างสิ้นเชิง

แล้วทำไมต้องเตะขาไปข้างหน้าหรือแค่เอาหล่อๆ

การเตะขาไปด้านหน้าหรือว่าเอาขาลงนั้น จะเป็นตัวที่สร้างบาลานซ์ให้กับรถในขณะที่รถอยู่ในโค้งให้รถสามารถทำความเร็วได้ตามที่ต้องการ ประโยชน์อีกอย่างก็คือลักษณะของโค้งในการขี่รถวิบากจะเป็นโค้งค่อนข้างแคบมาก บวกกับรถที่มีศูนย์ถ่วงที่สูงทำให้รถเกิดแรงเหวี่ยงมาก ดังนั้นจึงต้องมีการพับรถให้ได้ตามแรงเหวี่ยงของความเร็ว ดังนั้นเมื่อเปิดคันเร่งเร็วหรือกระแทกคันเร่งล้อหลังก็จะเกิดอาการสไลด์ได้

ทำไมขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเข้าโค้งต้องเอาขาลงพื้น เอาหล่อหรือมันคือพื้นฐาน

การเอาขาลงหรือว่าเตะไปด้านหน้าก็จะช่วยประคองรถไม่ให้ล้ม หรือเมื่อรถเสียหลักจะล้มขาที่เตะออกไปด้านหน้าก็จะเป็นตัวช่วยยันรถไม่ให้รถล้มหรือแก้อาการรถให้กลับมาในทิศทางของการขับขี่ได้ ตำแหน่งที่เท้าจะเตะออกไปข้างหน้า เท้าเตะไปที่ประมาณดุมล้อหน้านั้นเอง แต่ถ้าหากพับรถเยอะหรือเข้าไลน์ที่เป็นร่องก็อาจจะต้องเตะสูงมากกว่านี้นั้นเอง จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการขับขี่เกี่ยวเนื่องกับการขี่รถสไตล์วิบาก

ท่าทางในการขับขี่รถวิบาก

ในการขับขี่แบบ Lean Out จะมีลักษณะการขับขี่คล้ายๆ กับคนที่กำลังเริ่มหัดขับขี่รถใหม่ๆ เมื่อเวลาเลี้ยวอาจจะต้องเอาขาลงก่อน ถึงแม้ช่วงที่กำลังเลี้ยวหรืออยู่ในโค้งจะไม่ได้ใช้ความเร็วมากนักก็ตาม นี่ก็เป็นเหตุผลประกอบกับการเรียกชื่อของการใช้เข้าโค้ง และลักษณะท่าทางที่ใช้อย่างถูกต้องแบบรถวิบาก

ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากจะทำให้รถไปได้เร็วแล้วก็ยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน อีกรูปแบบหนึ่งของการขับขี่ในแบบโมตาร์ทนั้น ก็อาจจะใช้ได้ถึง 2 ลักษณะคือ ถ้าวิ่งในทางฝุ่งก็เข้าโค้งแบบ Lean Out แต่ถ้าเป็นทางเรียบบางคนก็อาจจะเลือกเข้าโค้งแบบ Lean In ได้ สาเหตุที่หลายคนเลือกเข้าโค้งแบบโมตาร์ทก็เพราะว่าสามารถทำความเร็วในโค้งได้ดีกว่านั้นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบไหน สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ เมื่อฝึกจนชำนาญเมื่อไหร่ร่างกายจะเกิดการตอบสนองโดยอัตโนมัติ สำหรับลักษณะท่าทางการขับขี่ทุกท่าทางจะมีทั้งเหตุและผลของการนำมาใช้ เพื่อให้สามารถคุมรถได้อย่างสนุกและปลอดภัยนั้นเอง

เครดิตขักเขียน คุณเป้า

คลุกคลีเรื่องรถมอเตอร์ไซค์มาร่วม 20 ปี ขี่รถทุกรูปแบบทั้งในประเทศ ต่างประเทศและสนามแข่ง ขอให้เป็นสองล้อขี่ได้หมด และยังพร้อมเติมประสบการณ์กับคันเร่งต่อไป

inbox

LINE

โปรโมชั่นบิ๊กไบค์แนว Adventure

สนใจโปรโมชั่นคาวาซากิ