[ความรู้คู่รถ] จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไหร่ดี?

[ความรู้คู่รถ] จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไหร่ดี?  เรื่องของเหลวในเครื่องยนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญ ถึงแม้จะถูกมองว่าเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองก็ตาม แต่ของเหลวภายในเครื่องยนต์ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชิ้นส่วนอะไหล่อื่นๆ และยิ่งสำคัญไปกว่านั้น ของเหลวยังเป็นตัวที่คอยปกป้องเครื่องยนต์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องที่รู้จักกันดี  ไม่เฉพาะเครื่องยนต์เท่านั้น ยังมีของเหลวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำในหม้อน้ำเองก็ดี(เพื่อนๆ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมน้ำเปล่ากับน้ำยาหล่อเย็น ต่างกันอย่างไร) รวมไปถึงน้ำมันเบรก ทุกชิ้นส่วนจะมีอายุการใช้งาน เมื่อถูกใช้งานไปตามระยะทางที่กำหนดก็ควรที่จะต้องเปลี่ยน เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์นั้นมีการทำงานได้สมบูรณ์มากที่สุด  ส่วนมากถ้าเป็นน้ำมันเครื่องยนต์หลายคนจะทราบกันดีว่าควรจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกันเมื่อไหร่ดี ส่วนใหญ่จะใช้ระยะทางเป็นตัวกำหนด ซึ่งคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องยนต์แต่ละเกรดจะมีแจ้งอยู่แล้วว่าใช้ได้กี่กิโลเมตร แต่ว่าถ้าเป็นน้ำมันเบรกนี่ซิ…? อาจจะเกิดคำถามกันอยู่บ่อยๆ ว่าแล้ว “ควรจะเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไหร่ดี” น้ำมันเบรกใช้ระยะทางเป็นตัวกำหนด  ในการเปลี่ยนน้ำมันเบรกนั้นจะใช้ระยะทางในการใช้งานเป็นตัวกำหนดเช่นเดียวกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่ว่าระยะทางการเปลี่ยนของน้ำมันเบรกนั้นจะยาวนานกว่าเท่านั้นเอง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไหร่   ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไหร่ อันดับแรกควรจะศึกษาที่คู่มือก่อนเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าควรจะเปลี่ยนที่ระยะที่เท่าไหร่ โดยพื้นฐานแล้วการเปลี่ยนน้ำมันเบรกจะอยู่ที่ 40,000 กิโลเมตร ซึ่งระยะนี้ถือว่าเป็นระยะมาตรฐาน หรือไม่ก็อาจจะกำหนดเอาไว้ว่าในรอบ 1 ปี ก็ควรที่จะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกสักหนึ่งครั้ง แต่พื้นฐานของน้ำมันเบรกสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ที่ระยะ 80,000 กิโลเมตรก็ได้ แต่แนะนำว่าควรจะเปลี่ยนที่ระยะ 40,000 กิโลเมตร จะช่วยให้การทำงานของเบรกนั้นดีที่สุด ทั้งนี้ยังเป็นการช่วยไล่ความชื้นที่อาจจะผสมอยู่ในน้ำมันเบรกได้ เพราะเมื่อน้ำมันเบรกมีความชื้นผสมอยู่มากก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกรถนั้นน้อยลงไปด้วยเช่นกัน   เมื่อเบรกมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องคุณภาพของน้ำมันเบรกก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อน้ำมันเบรกเกิดความร้อนมากๆ บางท่านอาจจะเคยได้ยินว่าอาการเบรกหายได้  สาเหตุที่เกิดอาการเบรกหาย การที่เบรกเกิดอาการหายก็มาจากเกิดความร้อนในน้ำมันเบรกมากเกินไป ดังนั้นจึงควรที่จะเปลี่ยนน้ำมันเบรกในทุกๆ 1 […]

5 พฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีอะไรบ้าง…?

เลือกหัวข้อที่สนใจ   พฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในเมืองไทยหลายคนคงทราบข้อมูลกันดีว่าเมืองไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และรถจักรยานยนต์หรือว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้นเคยกันก็เป็นอันดับต้นๆ  ในการเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ยิ่งทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุสิ่งต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ละครั้งย่อมเกิดความเสียหายไม่มากก็น้อย และมากที่สุดก็คือการสูญเสียคนที่รักไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ส่วนสาเหตุต่างๆ ก็มีมากมาย แต่มีอยู่ 5 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ตลอด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 1.ความประมาท    อันดับแรกของต้นเหตุหลายๆ เหตุการณ์ก็คือ “ความประมาท” ที่เป็นตัวต้นเหตุของอุบัติเหตุของหลายๆ เหตุการณ์ หลายคนมักจะชินกับคำว่า “ไม่เป็นอะไร” ซึ่งคำนี้กลับกลายเป็นความประมาทอย่างน่ากลัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถด้วยความเร็วหรือว่าช้าก็ตาม ในกรณีที่ใช้ความเร็วก็มักจะคิดว่า…ไม่เป็นอะไร…ไม่มีอะไร หรือจะเป็นการขับขี่ใกล้ๆแถวบ้าน ออกไปซื้อของหน้าปากซอย บางคนอาจจะไม่สวมหมวกกันน็อคระหว่างที่ขับขี่ ก็เพราะว่าเกิดจากความประมาท ที่คิดว่า “คงไม่เป็นอะไร” ไปแค่ใกล้ๆ แค่นี้เอง หลายคนคงลืมนึกไปว่าอุบัติเหตุนั้นไม่เลือกเวลาและสถานที่ ดังนั้นไม่ว่าจะขี่ช้าหรือขี่เร็วควรจะสวมหมวกกันน็อคเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถคาดเดาได้ 2.สภาพแวดล้อม ลำดับต่อมาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั้นก็คือ “ปัจจัยสภาพแวดล้อม” ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ อย่างหน้าร้อนเองก็จะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าได้ง่าย ยิ่งต้องขี่รถในระยะทางไกลๆ ยิ่งต้องจอดพักบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายพักและดื่มน้ำมาก เพราะการขี่รถระยะทางไกลและร่างกายต้องอยู่ภายใต้ชุดที่ใส่อยู่ก็ยิ่งจะทำให้ร่างกายขาดน้ำมากกว่าปกติ ถ้าหากเป็นหน้าฝนก็ยิ่งต้องระวังช่วงที่ถนนลื่น ซึ่งบางครั้งไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าที่พื้นถนนนั้นมีอะไรหรือว่ามีคราบน้ำมันอยู่บนพื้นหรือไม่ รวมไปถึงฝาท่อที่เป็นพื้นเหล็กก็เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เช่นกัน ส่วนหน้าหนาวนั้นใครที่ขี่รถขึ้นเหนือบ่อยๆ ในช่วงนี้คงจะทราบกันดีว่าจะมีหมอกลงจัด บางครั้งอาจจะมองในระยะใกล้ๆ ไม่เห็นเลย ทำให้ทัศนวิสัยในการมองนั้นแย่ลงอย่างมาก ถึงแม้จะเปิดไฟสูงแล้วก็ยังมองทางได้ยาก […]

หน้าฝนเราห่วงใย ตรวจเช็ครถฟรี 20 รายการ

หน้าฝนเราห่วงใย ตรวจเช็คฟรี 20 รายการ เมื่อเข้ามาใช้บริการที่ ศูนย์ เรียล โมโตสปอร์ต จองคิวออนไลน์เข้ามา ฟรี! น้ำมันเบรก สำหรับลูกค้าที่เข้าเช็คระยะ (เช็ครอบใหญ่) 12,000 km. / 24,000 km. / 36,000 km. / 48,000 km. / 60,000 km.   รีบจองหน่อย จำนวนจำกัดนะ เริ่ม 1-31 กรกฎาคม 2564  ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือจองได้แล้วที่ ลูกค้าสัมพันธ์ เรียล โมโตสปอร์ต โทร. 064-985-9399 Line : @realmotosports https://goo.gl/nTvfKJ Inbox : m.me/realmotosports  

ขี่รถทัวริ่งใส่ล้อซี่ลวดกับล้อแม็กซ์อย่างไหนดี

  ล้อซี่ลวดกับล้อแม็กซ์อันไหนดีกว่า          มาช่วงระยะหลังๆ กลุ่มรถแนวทัวริ่งในบ้านเราเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งมีรถแบรนด์ต่างๆ ที่ผลิตรถสไตล์ทัวร์ริ่งออกมาทำตลาดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวรถหรือว่าขนาดของ ซีซี ที่ผู้ขับขี่เองสามารถเลือกใช้งานได้ตามความถนัดมีทั้งล้อซี่ลวดกับล้อแม็กซ์ รวมถึงราคาค่าตัวในยุคนี้ก็ถือว่าเป็นราคาที่หลายคนจับต้องได้ อีกทั้งรถแต่ละรุ่นมีฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป ที่จะช่วยให้การขับขี่และควบคุมรถนั้นทำได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น รถแต่ละรุ่นก็ต้องเรียนรู้กันต่อไปครับว่ามีวิธีการหรือการทำงานอย่างไร   อีกอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าอยู่ในความคิดของใครหลายคนมาโดยตลอดนั่นก็คือรถทัวริ่งจะต้องเป็นล้อแบบซี่ลวดเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะการเดินทางและใช้งานของไรเดอร์เมืองไทยส่วนใหญ่จะขี่ลุยไปในทุกเส้นทางจึงทำให้หลายคนชอบในความเป็นล้อซี่ลวดมากกว่ารถในตระกูลทัวริ่งที่เป็นล้อซี่ลวดของ Kawasaki ที่เราเห็นกันบ่อยๆ อย่าง Versys-x300 หากแต่ในความจริงแล้วรถทัวริ่งเองจะยังไม่ได้จัดอยู่ในรถที่ขี่ลุยไปตามป่าตามเขา จะใช้ลุยก็เพียงแค่ทางฝุ่นที่ไม่ได้มีการกระแทกมากนัก จะว่าไปแล้วก็เป็นรถที่ใช้ขี่ในทางลาดยางหรือ ที่เรียกกันว่าทางดำกันมากกว่าอย่างเช่น Versys 650, Versys 1000 ส่วนมากจะเป็นรถประเภทนี้เป็นล้อแม็กซ์มากกว่าซี่ลวด ซึ่งอาจจะสวนกระแสกับตลาดเมืองไทยสักนิดที่นิยมล้อซี่ลวดมากกว่า เพราะที่เมืองไทยหลายคนจะเอารถแบบนี้ไปวิ่งในทางลูกรังด้วยนั่นเอง Tubeless คือ Tubeless คือ ยาง Tubeless (ยางทูบเลส) เป็นยางที่ไม่มียางในด้านในมีโครงสร้างแบบผ้าใบ ส่วนเนื้อยางด้านนอกจากมีความแข็งแรง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วยางประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้กับล้อประเภทล้อแม็กซ์มากกว่าเพราะยางจะมีความแน่นและแข็งแรง ขอบยางจะถูกอัดแน่นเข้ากับขอบกระทะล้อเพื่อการเก็บลม ในความแข็งแรงและรูปแบบของการใช้งานนั้น แน่นอนว่าล้อแม็กซ์มีความแข็งแรงและเบากว่า แต่ในความแข็งแรงและน้ำหนักเบานั้น หลายคนบอกว่าอาจจะมองว่าไม่ค่อยเหมาะ สาเหตุก็เพราะว่าในความแข็งแรงถ้าต้องไปขี่ในสภาพถนนที่เป็นดินหรือทางขรุขระนั้น อาจจะทำให้เมื่อเกิดการกระแทกวงล้อแบบแม็กซ์นั้นจะเกิดการแตกหรือหัก ซึ่งจะทำให้ยากต่อการเซอร์วิสในสถานการณ์แบบนั้น เช่นเดียวกับยางที่เป็นยางแบบ Tubeless […]

รวมรุ่นบิ๊กไบค์คาวาซากิ ในปี 2021

  อัปเดตล่าสุดบิ๊กไบค์คาวาซากิ ในปี 2021 หลังจากปี 2020 ที่ผ่านมาทาง Kawasaki ได้ปล่อยบิ๊กไบค์ All New Model ออกมาให้ได้ยลโฉมกันเป็นจำนวนมาก หลายๆ รุ่นได้มีการปรับและเพิ่ม Performance ให้กับโมเดลใหม่ทำให้กระแสตอบรับหลังจากได้มีการเปิดตัวเรียกว่าได้รับความนิยมอย่างมาก  ในปี 2021 นี้ ทางคาวาซากิเอง ก็ได้ปล่อย New Model ออกมาให้ยลโฉมอีกเช่นกันรวมไปถึงรุ่นที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าไม่อยากตกเทรนด์ต้องมาอ่านบทความนี้กันเลยครับคาวาซากิ รุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุด Kawasaki New Model ก่อนที่เราจะไปเริ่มกันผมขอบอกก่อนว่าบทความอัปเดตบิ๊กไบค์คาวาซากิในปี 2021 จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือบิ๊กไบค์ที่มีการเปิดตัวใหม่กับบิ๊กไบค์ที่เปลี่ยนแค่ชุดสีนะครับ เผื่อบางท่านอาจจะสงสัย Kawasaki Ninja ZX-25R 2021 สำหรับ Kawasaki Ninja ZX-25R 2021 หลังจากที่เป็นกระแสว่าทาง Kawasaki Motor จะนำเข้ามาจำหน่ายหรือไม่นั้น ในที่สุดความฝันของใครหลายๆ คนก็ได้เป็นจริง หลังจากมีการเปิดตัวกันไปยอดจองถือว่าเยอะมากพอสมควร ซึ่งใน Ninja ZX-25R […]

เปิดตัวแล้ว Kawasaki ZX-25R ครั้งแรกในไทย

zx25r

สวัสดีครับทุกท่านกลับมาพบกันอีกครั้งกับ Kawasaki Real MotoSports วันนี้เรามีข่าวมาอัปเดตสดๆร้อนๆ ในงานMotor Show 2020 ให้กับสายสปอร์ตทุกท่านได้ทราบกัน โดยงานนี้Kawasaki ได้มีการเปิดตัวรถสปอร์ตสายพันธุ์เดียวกับเจ้า ZX-10R และ ZX-6R  นั้นคือ Kawasaki Ninja ZX-25R นั้นเอง ซึ่งตัวจริงนั้นสวย เท่ห์ สมกับการรอคอย แน่นอนครับเราไม่พลาดที่จะเก็บรูปภาพสวยๆ มาให้กับทุกท่าน งานนี้ทาง Kawasaki Motor Thailand ได้เปิดราคาของเจ้า ZX-25R มาที่ 269,000 บาท มาพร้อมโปรโมชั่น ฟรี ประกันภัยชั้น 1 โดยรุ่นที่นำมาจำหน่ายนั้นจะเป็นรุ่น SE มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน  1. สี เขียว ดำ  2. สี ดำ-โครงแดง ซึ่งสำหรับใครที่สนใจบอกเลยว่าต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะในล็อตแรกนี้ผลิตมาจำนวนจำกัด ข้อมูลสเปคของ Kawasaki Ninja ZX-25R เครื่องยนต์ขนาด […]