จะทำอย่างไรเมื่อสายคลัทช์ขาดขณะกำลังขี่บิ๊กไบค์

เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ครับถ้าเรากำลังขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจอยู่แล้วเกิดสายคลัทช์ขาดเราควรทำอย่างไร ถ้าเป็นตอนจอดหรือเราเจอก่อนใช้งานก็ดีไป แต่ถ้าเป็นช่วงที่กำลังขี่อยู่แล้วขาด ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วบิ๊กไบค์อย่างเราสามารถงัดหรือถอนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัทช์ได้แต่ถ้าเราไม่รู้จังหวะอาจจะเกิดเฟืองเกียร์หักหรือขาเตะเกียร์หักได้ วันนี้ Kawasaki Real MotoSports มีบทความพร้อมคำตอบให้กับทุกท่านแล้วครับ

สำหรับการขับขี่ใช้งานทั่วไปแล้วส่วนมากเมื่อรถมีปัญหาหรือว่าถึงระยะเวลาต้องเข้าเช็ครถช่างก็จะช่วยดูแลและบอกว่าเราควรเปลี่ยนอะไรตามระยะบ้างหรือมีอะไรเสียหายบ้าง แต่ในบางครั้งอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่ได้ตั้งตัว โดยเฉพาะระบบส่งกำลังที่เป็นแบบคลัทช์ธรรมดา ที่มีโอกาสขาดได้ตลอดเวลา อาจจะเกิดจากระยะเวลาใช้งานที่นานเกินไปสายข้างในอาจจะเปื่อย หรืออุปกรณ์ชำรุดโดยที่ไม่รู้ เมื่อขี่รถออกทริปกับเพื่อนๆ สายคลัทช์ที่ใช้งานมานานก็ขาดได้

เมื่อสายคลัทช์ขาดทำอย่างไร

คราวนี้ลองมาดูกันว่าเมื่อสายคลัทช์ขาดระหว่างทางหรือว่าระหว่างออกทริปนั้นจะมีแนวทางการแก้ไขอย่างไรได้บ้าง อย่างแรกเลยเมื่อรู้ว่าสายคลัทช์ขาดระหว่างที่รถยังวิ่งอยู่ ไม่ต้องตกใจครับเครื่องยนต์ยังสามารถเดินทางต่อไปได้ แต่อาจจะต้องใช้ลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัย เพราะบางท่านจะชินกับการใช้คลัทช์ หลักๆ แล้วหน้าที่ของคลัทช์นั้นจะมีหน้าที่หลักๆ เพียงแค่การออกตัว เปลี่ยนเกียร์และคอยกำคลัทช์ตอนเครื่องจะดับเท่านั้น แต่ในระหว่างที่เปลี่ยนเกียร์บางท่านอาจจะเคยลองแบบไม่กำคลัทช์ ถ้าหากรอบเครื่องไม่ถึงหรือเปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำเกินไปรถจะมีอาการกระตุกเล็กน้อย ซึ่งในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์นั้น ต้องยกคันเร่งเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ต้องยกแบบหมดปลอกก็ได้ เมื่อยกคันเร่งเพียงเล็กน้อยแล้วสามารถงัดเกียร์หรือเปลี่ยนเกียร์ได้ทันที รถอาจจะมีกระตุกบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องตกใจ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถใช้ได้กับทุกเกียร์ (ยกเว้นการออกตัว)

แต่ถ้าหากต้องการเชนจ์เกียร์ให้ต่ำลงมา เมื่อยกคันเร่งแล้วกดเกียร์ลงมา ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงอยู่ เมื่อเปลี่ยนเกียร์ลงมาเครื่องยนต์จะมีอาการดึงหรือที่เรียกกันว่า Engine Brake ตรงนี้ควรระวังให้ดีเพราะอย่าเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รอบเครื่องยนต์สูงมากจนเกินไป เพราะยิ่งถ้าเปลี่ยนเกียร์ในรอบที่สูงเมื่อเชนจ์เกียร์รถก็จะยิ่งมีอาการสะบัดมากขึ้นนั้นเอง อาจะทำให้เสียจังหวะได้ แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้การเปลี่ยนเกียร์นั้นนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีของนักแข่งในยุดก่อนที่ไม่มี ควิกชิพเข้ามาช่วย แต่ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยวิธีนี้จะใช้การเบิ้ลเครื่องยนต์ไปพร้อมๆกับเชนจ์เกียร์ลงมา เพื่อช่วยลดความเร็วของรถ การทำลักษณะนี้จะทำให้ Engine Brake นั้นมีความนุ่มนวล รถไม่มีอาการสะบัดให้เสียการทรงตัว แต่ผู้ขับขี่จะต้องฝึกบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญในการเบิ้ลเครื่องยนต์ไปพร้อมกับการเชนจ์เกียร์ลง ถ้าหากไม่ได้จังหวะรถจะเกิดอาการพุ่งไปข้างหน้า และจะทำให้กดเกียร์ไม่ลงได้เหมือนกัน

สายคลัทช์ขาดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

บทความนี้เป็นการแก้ไขปัญหาหากเกิดสายคลัทช์ขาดระหว่างการเดินทางหรือว่าใช้ความเร็วอยู่ หากตั้งสติได้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด บวกกับหากเคยลองฝึกการเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัทช์แล้วก็จะทำให้การเปลี่ยนเกียร์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เช่นเดียวกับการเชนจ์เกียร์ลงมา ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์ให้มีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์เท่านั้นเอง เมื่อผ่านจังหวะนั้นมาได้ อีกจังหวะหนึ่งที่อาจจะต้องลองฝึกหรือลองทำกันดูนั้นก็คือช่วงจังหวะการจอดถ้าหากเข้าเกียร์ว่างได้ทันก็สามารถจอดรถได้ด้วยการเบรก แต่เวลาออกตัวนั้นอาจจะลำบากสักหน่อย ถึงแม้จะติดเครื่องยนต์ได้ แต่ไม่สามารถออกตัวได้ เพราะยังไงเครื่องยนต์ก็จะดับอย่างแน่นอน

วิธีสตาร์ทในกรณีสายคลัทช์ขาด

ดังนั้นวิธีนี้อาจจะต้องออกแรงเข็นสักหน่อย โดยการเข็นในแบบกระตุกเครื่องยนต์ อาจจะต้องใช้ความชำนาญของผู้ขับขี่พอสมควร เพราะเมื่อเข็นรถจนได้ความเร็วแล้วก็ต้องกระโดดขึ้นคร่อมรถ แต่ถ้าหากรถใหญ่ที่มีน้ำหนักมากก็อาจจะต้องเหนื่อยหน่อย ถ้าให้ดีก็อาจจะมองหาที่ลาดชันลงมาก็น่าจะดีที่สุด แต่ถ้ามีเพื่อนไปด้วยก็ให้เพื่อนยันรถได้ เมื่อได้ความเร็วก็กดเข้าเกียร์ ซึ่งให้ระวังจังหวะการทรงตัวให้ดี หรือไม่ระหว่างที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ก็อาจจะเข้าเกียร์ค้างไว้ก่อน  แล้วเวลาเข็นหรือยันรถให้ ผู้ขับขี่ช่วยกดคันเกียร์ลงมาเพียงเล็กน้อย เหมือนกับให้อยู่ระหว่างเกียร์ ตรงนั้นจะเป็นเหมือนกับเกียร์ว่างเมื่อรถได้ความเร็วก็ค่อยปล่อยคันเกียร์ แต่ควรจะใช้เกียร์สูงสักหน่อยเพื่อให้จังหวะการสตาร์ทของเครื่องยนต์มีความนุ่มนวลมากกว่าใช้เกียร์ต่ำ เครื่องยนต์ก็จะติดได้และสามารถขับขี่ได้

จริงๆ แล้วหากเกิดสายคลัทช์ขาดนั้นก็มีวิธีการขับขี่หลากหลายรูปแบบ ที่พอจะทำให้ไปถึงร้านซ่อมได้ แต่ผู้ขับขี่อาจจะต้องใช้ความชำนาญสักหน่อย ยิ่งเป็นรถที่มีน้ำหนักมากก็จะยิ่งทำให้ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีนั้นลองฝึกกันเอาไว้บ้างก็ดี เผื่อวันใดวันหนึ่งอาจจะต้องนำวิธีที่เราฝึกกันนั้นเอามาช่วยแก้ไขสถานการณ์คับขันแบบนี้ได้เช่นกัน เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับบทความนี้หลายๆ ท่านที่เป็นมือใหม่อาจจะไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วเราสามารถใช้เกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ได้เช่นกัน แต่ผมไม่แนะนำให้ทำบ่อยๆ นะครับอาจจะส่งผลเสียต่อระบบเกียร์ได้เอาไว้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น สำหรับวันนี้ Kawasaki Real MotoSports ต้องขอตัวลาไปก่อนครั้งหน้าจะมีบทความอะไรดีๆ มานำเสนออีกติดตามกันให้ดีๆ นะครับ

พูดคุยกับเราหรือปรึกษาก่อนซื้อ