วิธีเลี้ยวมอเตอร์ไซค์อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัยแถมสนุกไปกับการขับขี่

ลักษณะการเข้าโค้งในแต่ละท่าทาง

รูปจาก https://www.autospinn.com/

ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายปี เป็นฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวของใครหลายๆ คน ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเองได้เจออะไรใหม่ๆ ได้เล่นโค้งไปในเส้นทางที่สวยงาม แต่สิ่งที่สำคัญเราควรเลือกใช้ความเร็วและท่าทางในการเข้าโค้งให้เหมาะสมกับความเร็วและลักษณะของ โดยวันนี้ Kawasaki Real MotoSports จะมีวิธีการเลี้ยวหรือเข้าโค้งอย่างไรให้ปลอดภัยมาฝากเพื่อนๆ กันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราไปอ่านกันได้เลย[/vc_column_text][vc_column_text]

เรียนรู้พื้นฐานเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ในพื้นฐานของการขี่รถเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้กันมาพอสมควรแล้วว่าสายตาคือจุดสำคัญในการขี่รถ ถ้าหากผู้ขี่มองไปทางไหนรถก็จะวิ่งไปทางนั้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งร่างกายก็จะพารถเลี้ยวไปทางนั้น จากความสำคัญของสายตาที่จะพารถเลี้ยวแล้ว ในส่วนของร่างกายเองจุดสำคัญก็อยู่ที่หัวไหล่ที่จะเป็นตัวบิดรถเพื่อให้รถวิ่งไปตามทิศที่ผู้ขับขี่ต้องการ นอกจาก 2 จุดหลักๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วเชื่อหรือไม่ว่าท่อนล่างของร่างกายเองก็คือส่วนที่สำคัญของการที่ทำให้รถเลี้ยวไปตามที่ต้องการหรือว่าขณะที่อยู่ในโค้งได้ดีไม่แพ้กับส่วนบนของร่างกาย และเชื่อหรือไม่ว่าในบางครั้งสามารถใช้ส่วนท่อนล่างควบคุมรถหรือว่าเลี้ยวรถได้เหมือนกัน

จะควบคุมรถต้องใช้ส่วนไหนบ้าง

 ลองมาดูกันครับว่าท่อนล่างของร่างกายจะสามารถควบคุมรถหรือว่าเลี้ยวรถได้อย่างไร อย่างแรกก่อนที่จะใช้ท่อนล่างของร่างกายคุมรถนั้นก็ต้องนั่งให้ถูกวิธีก่อน การนั่งให้ถูกวิธีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่นั่งในตำแหน่งที่รู้สึกว่าสบายมากที่สุด ร่างกายไม่รู้สึกว่าฝืนนั่นเอง ต่อมาที่ช่วงเข่าก็ควรที่จะต้องหนีบกับตัวรถเอาไว้ และตามด้วยตำแหน่งการวางเท้าที่อาจจะต้องใช้ส่วนกลางของเท้าในการวางตรงที่แป้นพักเท้าก็ได้ หรือบางคนอาจจะใช้ปลายเท้าวางที่แป้นพักเท้าก็ได้เช่นกัน

ในการเลี้ยวรถด้วยท่อนล่างของร่างกาย เมื่อจัดวางท่อนล่างของร่างกายไว้แล้ว ส่วนตำแหน่งท่อนบนเองก็คงจะไม่ได้กล่าวถึงมากนัก เมื่อเราหนีบรถได้ในตำแหน่งที่เราต้องการเรียบร้อยแล้ว การถ่ายเทน้ำหนักจึงเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่ส่วนเอวลงมาจะถูกจัดให้เป็นตัวควบคุมรถในขณะที่รถกำลังจะเลี้ยวเข้าโค้งให้ได้ในองศาที่พอดี การเลี้ยวแบบนี้ให้ตัดการกางขาออกไปจากความคิดได้เลย เพราะว่าไม่จำเป็นอยู่แล้วครับ แล้วทำไมถึงไม่จำเป็น? เราไปอ่านคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

ในการขับขี่บนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบหรือโค้งกว้างก็ตาม ผู้ขับขี่สามารถใช้ตั้งแต่ท่อนเอว พร้อมกับถ่ายน้ำหนักไปฝั่งที่จะเลี้ยวรถโดยทิ้งน้ำหนักไปที่ก้นเป็นหลัก เพื่อเป็นการถ่ายน้ำหนักไปในฝั่งที่ต้องการเลี้ยวรถ พร้อมกับเข่าที่ยังต้องหนีบรถอยู่แต่ไม่ต้องถึงกับหนีบรถแน่นจนเกินไป ควรจะหนีบเอาไว้พอให้รู้สึกว่าเข่าแนบไปกับตัวถังน้ำมันรถแล้ว ส่วนเท้าจะใช้เป็นอีกหนึ่งจุดในการถ่ายเทน้ำหนักให้กับร่างกายด้วยเหมือนกัน

ในการเทน้ำหนักนั้นเราจะทิ้งน้ำหนักลงไปที่เท้าในฝั่งที่กำลังจะเลี้ยวด้วยนั้นเอง ส่วนสายตายังคงมองไปที่ปลายโค้งเช่นเดิม ลักษณะการเลี้ยวแบบนี้แทบจะไม่ต้องหักแฮนด์ ถ้าจะใช้แฮนด์เลี้ยวก็ใช้เพียงเล็กน้อย เพราะว่ารถจะเลี้ยวไปตามน้ำหนักที่ถูกกดเอาไว้ ส่วนท่อนบนของร่างกายนั้น เพียงแค่ตั้งตรงเอาไว้เท่านั้นแทบจะไม่ต้องโยกหัวไหล่ออกมาจากตัวรถเลย การถ่ายเทน้ำหนักแบบนี้เรียกง่ายๆ ว่า Lean-with และ Lean-out จะเป็นช่วยลดการใช้พละกำลังของร่างกายได้หากต้องขี่รถในทางไกลๆ หรือว่าขี่รถเป็นเวลานานๆ และอาจจะใช้ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงในโค้งมากนัก เพียงแค่ใช้การถ่ายเทน้ำหนักเท่านั้นรถก็สามารถเลี้ยวได้เช่นกัน  

 ดังนั้นการควบคุมรถโดยใช้ช่วงล่างของร่างกายก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ หากร่างกายสามารถควบคุมรถได้อย่างอิสระแล้วก็จะยิ่งทำให้การขับขี่นั้นมีความสนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนเพื่อให้ร่างกายเกิดความชำนาญมากยิ่งขึ้น

 นอกจากขี่สนุกแล้วยังช่วยทำให้การขี่ในโค้งก็เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งใช้เข่าหนีบรถได้แน่นแล้วรถก็จะเกิดความนิ่ง และใช้การถ่ายเทน้ำหนักให้กับตัวรถเพียงเท่านั้น แต่ถ้าหากใช้ความเร็วในโค้งก็จะต้องใช้ช่วงบนหรือช่วงหัวไหล่เข้ามาช่วยกดตัวรถด้วยเช่นกัน และอย่างที่ได้เคยกล่าวไปในหลายครั้งก็คือในบางทีอาจจะไม่ต้องใช้เข่าหนีบรถตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ที่เกิดเหตุการณ์คับขันแล้วเข่าก็ควรที่จะหนีบรถได้อย่างทันเวลา เพื่อให้รถนิ่งที่สุดหรือเกิดอาการแกว่งให้น้อยที่สุดนั่นเอง

เทคนิคการขี่แบบนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับเพื่อนๆที่ขี่รถบิ๊กไบค์และกำลังที่จะขี่รถออกทริปในระยะทางไกลๆ การขี่รถระยะทางไกลๆ ก็อาจจะต้องใช้ร่างกายให้ถูกจังหวะเพื่อไม่ให้ร่างกายถูกใช้งานเป็นเวลานานๆ ยิ่งเป็นรถสปอร์ตด้วยแล้วต้องก้มนานๆก็จะยิ่งเกิดความเมื่อยล้าของร่างกายได้

ในกรณีหากร่างกายล้ามากก็ควรที่จะหยุดพักแล้วค่อยเดินทางกันต่อ ยังไงก็แล้วแต่ช่วงนี้ก็ขอให้เพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์กันอย่างปลอดภัยเคารพกฎจราจรก็จะเกิดความปลอดภัยทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทาง ไปให้ได้และกลับให้ถึงนี่แหละคนขี่รถเก่งครับ

Share this post :

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us​