ย้อนตำนาน 54 ปี จาก Kawasaki W1 สู่ W800 ABS 2019

[vc_row][vc_column][vc_column_text]

หากใครได้ไปเยี่ยมชมบูธคาวาซากิที่งาน BMF 2019 ที่ผ่านมา คงจะผ่านตาเจ้ารถคลาสสิคสองโมเดลที่เปิดตัวสดๆร้อนๆในงานนี้ นั่นก็คือ Kawasaki W800 Street  และ Kawasaki W800 Cafe ซึ่งหลายคนที่ชื่นชอบรถสไตล์คลาสสิค ก็คงจะถูกใจไม่น้อย ซึ่งปัจจุบัน คาวาซากิจะมีรถสายรหัส W ทั้งหมด 3 รุ่น นั่นคือ W800 W250 และน้องเล็ก W175  วันนี้เลยขอเสนอประวัติความเป็นมาของเจ้าสายรหัส W นี้กัน

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8651″ img_size=”full” alignment=”center” css_animation=”fadeInDown”][vc_column_text]

Kawasaki W800  ถือเป็นรถญี่ปุ่นอีกรุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นับสืบขึ้นไปถึงรุ่น W1 ในปี 1965  และถือเป็นลูกหลานสืบเชื้อสายโดยตรงของ รถ BSA ประเทศอังกฤษที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยเริ่มจาก บริษัท Kawasaki Heavy Industries ในขณะนั้น ซึ่งโด่งดังในอุตสาหกรรมประเภทอื่น ต้องการเข้ามาจับตลาดมอเตอร์ไซค์ จึงได้เข้าซื้อกิจการบริษัทมอเตอร์ไซค์ชื่อดังนามว่า Meguro ของญี่ปุ่น

ซึ่งยี่ห้อนี้เคยเป็นถึงยักษ์ใหญ่ในวงการมอเตอร์ไซค์ของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1930 มีการส่งรถร่วมการแข่งขันและออกขายในต่างแดนมากมาย สร้างชื่อเสียงด้านคุณภาพของรถญี่ปุ่น จนแม้แต่เซียนมอเตอร์ไซค์ชาวอังกฤษถึงกับชมว่า Too good to be true เลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ภายหลัง Meguro ประสบปัญหาด้านยอดขาย จนเลิกกิจการ ถูกควบรวมกลายเป็นแบรนด์คาวาซากิในที่สุด ปัจจุบันนี้น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อ Meguro[/vc_column_text][vc_column_text]

1966 kawasaki W1  ปี 1996 ปู่ของ W800

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8658″ img_size=”full”][vc_column_text]

บริษัท Meguro ในยุคที่รุ่งเรืองนั้น ได้ถือสิทธิในการผลิตรถ BSA A7 ขนาด 500cc อยู่ ซึ่งภายหลังจากที่คาวาได้ควบรวมบริษัท Meguro มาเป็นของตน จึงได้กรรมสิทธิ์ในการผลิตรถรุ่นต่างๆพ่วงเข้ามาด้วย คาวาซากิจึงได้พัฒนาต่อยอดเจ้าโมเดล BSA A7 จนกลายมาเป็น รุ่น W1 ในปี 1965  ซึ่งเจ้ารถ Kawasaki W1 นั้นถือเป็นตำนานในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการรถญี่ปุ่น ได้รับเกียรติจาก สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น ยกให้เป็น 1 ในรถ 240 คัน (รวมรถยนต์) เข้ากรุ ยกย่องให้เป็นตำนานความสำเร็จของยานยนต์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

[/vc_column_text][vc_column_text]

1949  BSA A7  ตัวต้นฉบับที่ Meguro ได้สิทธิ์ในการผลิตมา แล้วส่งต่อให้ Kawasaki

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8663″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

นับตั้งแต่นั้นมาคาวาซากิก็ได้พัฒนา ต่อยอดรถรุ่น W1 มาเป็น W2 W3 ตามลำดับ แล้วก็มาแทนที่ด้วยตระกูล Z อยู่ระยะนึง ก่อนจะกลับมาพัฒนา W อีกครั้งเป็น W650 ในปี 1999 และ W800 ในปี 2011 ซึ่งรถในตระกูล W จะมีพื้นฐานและหน้าตาเครื่องยนต์แบบรถอังกฤษมีความละม้ายคล้ายคลึง BSA มาก ขนาดที่ฝรั่งยังบอกว่า W650 W800 เป็นรถที่มีหน้าตา สัดส่วนและความเป็นรถจักรยานยนต์ทรงอังกฤษแท้ๆ มากกว่ารถแบรนด์เจ้าประเทศในปัจจุบันเสียอีก

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8692″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

จุดเด่นของเจ้า w650 และ w800 อยู่ที่ด้านขวาของเครื่อง เป็นดีไซน์แบบ bevel drive เฟืองดอกจอกขับเพลาราวลิ้น โดยในอดีต Ducati เคยผลิตเครื่องลักษณะนี้สำหรับรถสปอร์ตเป็นทรง  v twin ในยุคปี 1970 และกลายเป็นรถสะสมในที่สุด ซึ่งดีไซน์เครื่องเฟืองขับแบบนี้ สามารถย้อนกลับไปถึงรถอังกฤษอย่าง Velocette ในปี 1920 เลยทีเดียว  ได้ยินมาว่าตอนที่ คาวาซากิเปิดตัว Kawasaki W650 ครั้งแรกนั้น ได้สร้างความฮือฮาในวงการสองล้อ ไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีใครสามารถอาจหาญ ผลิตเครื่องขับด้วยเฟืองดอกจอกซึ่งถือว่ามีต้นทุนการผลิตสูงมากๆ ทำออกมาขายในราคาบ้านๆได้ และในปัจจุบันนี้ก็เหลือแต่บริษัทคาวาซากิที่ยังผลิตเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ลักษณะนี้อยู่  ไม่มีใครกล้าทำออกมาอีกแล้ว

[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner][vc_single_image image=”8711″ img_size=”large” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://line.me/R/ti/p/@realmotosports” rel=”jqmodal:open”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_row_inner][vc_column_inner][vc_single_image image=”8712″ img_size=”large” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://m.me/realmotosports” rel=”jqmodal:open”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/4″][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”8846″ img_size=”large” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”#modal-promo-classic” rel=”jqmodal:open”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/4″][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_empty_space][vc_column_text]

ซ้ายบน เครื่อง kawasaki w800   ขวาบน เครื่อง ducati v twin  ล่าง รถ Velocette เครื่อง 500 เฟืองขับ ปี 1926

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8666″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]ในประเทศญี่ปุ่นเอง นอกจาก W650 และ W800 แล้วยังมีรุ่น W400 ซึ่งมีเครื่องยนต์กำลังน้อยกว่าขนาด 400cc สำหรับผู้ที่สอบได้ใบขับขี่เบื้องต้น มาเป็นตัวเลือกอีกรุ่นนึงด้วย ซึ่งทั้ง W650 และ W400 เป็นรถจ่ายน้ำมันด้วยคาบูเรเตอร์ วางขายอยู่ถึงปี 2010 ก่อนทั้งสองรุ่นจะถูกแทนที่ด้วย W800 ในปี 2011 นี่สุด

Kawasaki W800 ก็ถือเป็นรถสุดคลาสสิคโมเดลนึงที่เป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งนับตั้งแต่ ปี 2011 ถึง 2016 เพียงไม่กี่ปี เรากลับได้เห็น Kawasaki W800 รุ่นพิเศษ สีสันต่างๆ ออกทำการตลาดโดยไม่ขาดช่วง แทบจะนับสีไม่ไหวเลยทีเดียว ซึ่งแสดงถึงความนิยมของรถรหัส W ได้ชัดเจน[/vc_column_text][vc_column_text]

นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา kawasaki ได้วางขาย W800 สีพิเศษมากมาย เกือบ 20 เฉดสีให้เลือก

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8653″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]แต่แล้วก็เกิดข่าวเศร้าขึ้นในปี 2016 เมื่อคาวาซากิ ประกาศว่า จำเป็นต้องยุติการผลิต รถตระกูล W800 เนื่องจากไม่สามารถผ่านมาตรฐานไอเสียและความปลอดภัยในอนาคต EURO4  ของยุโรปและอีกหลายประเทศได้อีกต่อไป จึงได้ออกรุ่นพิเศษอำลารถตระกูล W โดยให้ชื่อรุ่นว่า W800 Final Edition ออกวางขายในญี่ปุ่น ยุโรป และออสเตรเลีย[/vc_column_text][vc_column_text]

Final Edition ถังสีส้ม รุ่นพิเศษสั่งลาของรถตระกูล W ที่คาวาซากิประกาศวางจำหน่ายเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2017

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8669″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]ในช่วงเวลาที่คาวาซากิญี่ปุ่นประกาศเลิกผลิต W จู่ๆคาวาซากิประเทศไทย ก็นำ W800 เข้ามาเปิดตัววางขายเป็นครั้งแรก จนชาวสองล้อบ้านเราตกใจกันว่ามาได้อย่างไร เป็นเรื่องประหลาดและสร้างความสับสนไม่น้อย ท่ามกลางข่าวลือ ความไม่มั่นใจของแฟนๆว่า เป็นการขายโละสต้อคของญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว คาวาซากิได้ทดลองเปิดตัว W800 ในประเทศอื่นๆที่ยังไม่ได้ใช้มาตรฐาน EURO4 ด้วย แถมได้รับผลตอบรับดีเกินคาดในช่วง 2 ปีถัดมา[/vc_column_text][vc_column_text css=”.vc_custom_1618971344660{margin-bottom: 30px !important;}”]

W800 วางจำหน่ายในไทยเพียงสองปี จึงมีสีให้เลือกเพียงแค่ 4 สี นั่นคือ
สีดำสนิท สีน้ำเงิน สีดำตัดขาว และสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีของปี 2015 2016 ในประเทศญี่ปุ่น
น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็น W800 สีสันแสบๆโดนๆแบบที่ต่างประเทศได้ใช้กัน

[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”8670″ img_size=”full” css=”.vc_custom_1551242749775{margin-top: 30px !important;}”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”8671″ img_size=”full” css=”.vc_custom_1551242756721{margin-top: 30px !important;}”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”8675″ img_size=”full” alignment=”center” css=”.vc_custom_1551239151792{margin-top: 30px !important;}”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”8673″ img_size=”full” alignment=”center” css=”.vc_custom_1551239157659{margin-top: 30px !important;}”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_column_text]

จากผลตอบรับที่ดีเกินคาดนี้เอง และกระแสรถแนวเรโทรที่กำลังมาแรงทั่วโลก ทำให้คาวาซากิเริ่มเล็งเห็นว่า ยังสามารถชุบชีวิตตระกูล W ขึ้นมาใหม่ได้ จึงได้พัฒนารุ่น W175 ขึ้นมาใหม่ และจับเอาเจ้า Estrella 250 คลาสสิคตัวเล็กที่ขายในญี่ปุ่น มาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น W250  โดยได้วาง position ของทั้งสามรุ่น (w175, w250, w800) เป็นไลน์อัพรถกลุ่มเรโทรขึ้นมาใหม่ในปี 2017 และในระหว่างนี้ก็เริ่มโปรเจคพัฒนา W800 ตัวใหม่ขึ้นมาลับๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน EURO4 สามารถกลับมาขายในยุโรปและอเมริกาได้อีกครั้ง

[/vc_column_text][vc_column_text]

Kawasaki W175

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8680″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

Kawasaki W250

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8682″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

W series ปี 2017

[/vc_column_text][vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=4QQ9dwkubp4″][vc_column_text css=”.vc_custom_1618971447173{margin-top: 40px !important;}”]

จากตำนาน W1 รุ่นแรกในปี 1965 ก็เดินทางผ่านกาลเวลา 53 ปี เข้าสู่ปี 2018 คาวาซากิก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์ ต่ออายุรถ W800 ประกาศเปิดตัว W800 ABS รุ่นใหม่ สำหรับปี 2019 เป็นต้นไป ที่งาน EICMA 2018 ประเทศอิตาลี วางจำหน่าย 2 รุ่นคือ รุ่น Street และ Cafe Racer โดยปรับโฉมให้มีหน้าตาดู Modern ขึ้น

มีเทคโนโลยีความปลอดภัยดีเยี่ยมกว่าเดิม โดยจุดที่แตกต่างจาก W800 ตัวเดิม หลักๆคือ ดีไซน์เครื่องยนต์ภายในใหม่หมด, ABS, ดิสเบรกหน้าหลัง, slipper clutch, ไฟ LED, ท่อไอเสียแบบใหม่ที่ตั้งใจจูนเสียงให้ดุดันขึ้น, เฟรมตัวใหม่, แฮนเดิลบาร์ทรงใหม่, และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆอีกเล็กๆน้อยๆ[/vc_column_text][vc_column_text]

W800 2019 “Street”

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8685″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

W800 2019 “Café”

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8687″ img_size=”full”][vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=q4ZgeQTWaZU&t=8s”][vc_column_text]

คาวาซากิตั้งใจให้ W800 รุ่นใหม่นี้ เป็นรถในกลุ่ม Modern / Neo Classic อย่างแท้จริง แตกต่างจาก W800 ตัวเดิมที่มีความเป็นวินเทจชัดเจน ซึ่งก็น่าติดตามดูรีวิวของนักทดสอบจากประเทศต่างๆจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะมาในเร็วๆนี้เมื่อคาวาซากิเริ่มส่งมอบรถ ทางผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ครอบครอง W800 ตัวเดิม ก็พลอยรู้สึกตื่นเต้น และสนใจอยากรู้ว่าเจ้า W800 ตัวใหม่ จะมีฟิลลิ่ง ลีลา แตกต่างจากตัวเดิมแค่ไหน จากที่อ่านเสปคคร่าวๆ ก็พอคาดเดาได้ว่า จะเป็นรถที่ขี่ถนนทางดำ ได้สนุกมากๆคันนึงแน่นอน มาตามดูกันครับ

[/vc_column_text][vc_single_image image=”8689″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_single_image image=”8690″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]

W800 รถในสไตล์คลาสสิคที่ไม่มีวันเก่า ด้วยรูปลักษณ์และกลิ่นไอความเป็นคลาสสิคสุดลงตัว สามารถสะกดทุกสายตาที่จ้องมองมา และเชื่อว่า W800 นั้นเป็นรถที่หลายคนหลงไหล ความเป็นคลาสสิคในตำนาน พร้อมเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ถูกถ่ายทอดมาเพื่อรอให้คุณเข้าไปสัมผัส หากสนใจทดลองขับขี่ตัวจริงของ W800 ABS 2019 สามารถเข้าไปที่ศูนย์คาวาซากิ Real MotoSports ทุกสาขา เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกการเดินทาง

[/vc_column_text][vc_column_text css=”.vc_custom_1551323892346{margin-top: 60px !important;}”]

 บทความโดย DimsumRacer ปอ

[/vc_column_text][vc_single_image image=”6896″ img_size=”medium” alignment=”center”][vc_column_text]

ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า

[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/4″ offset=”vc_hidden-xs”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/4″ offset=”vc_col-xs-6″][vc_single_image image=”6767″ img_size=”full” onclick=”custom_link” img_link_target=”_blank” link=”https://line.me/R/ti/p/@realmotosports”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/4″ offset=”vc_col-xs-6″][vc_single_image image=”6766″ img_size=”full” onclick=”custom_link” img_link_target=”_blank” link=”https://m.me/realmotosports”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/4″ offset=”vc_hidden-xs”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column css=”.vc_custom_1551669573764{margin-top: 30px !important;}”][vc_single_image image=”7400″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” img_link_target=”_blank” link=”https://realmotosports.com/promotions/”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_raw_html]JTBBJTBBJTIwJTNDZGl2JTIwY2xhc3MlM0QlMjJyZW1vZGFsJTIyJTIwZGF0YS1yZW1vZGFsLWlkJTNEJTIybW9kYWwtcHJvbW8tY2xhc3NpYyUyMiUzRSUwQSUzQ2gzJTNFJTIwJUUwJUI4JTgxJUUwJUI4JUEzJUUwJUI4JUFEJUUwJUI4JTgxJUUwJUI4JTgyJUUwJUI5JTg5JUUwJUI4JUFEJUUwJUI4JUExJUUwJUI4JUI5JUUwJUI4JUE1JUUwJUI5JTgwJUUwJUI4JTlFJUUwJUI4JUI3JUUwJUI5JTg4JUUwJUI4JUFEJUUwJUI4JUEzJUUwJUI4JUIxJUUwJUI4JTlBJUUwJUI5JTgyJUUwJUI4JTlCJUUwJUI4JUEzJUUwJUI5JTgyJUUwJUI4JUExJUUwJUI4JThBJUUwJUI4JUIxJUUwJUI5JTg4JUUwJUI4JTk5JTIwVzgwMCUyMCUzQyUyRmgzJTNFJTBBJTNDJTIxLS0lNUJpZiUyMGx0ZSUyMElFJTIwOCU1RCUzRSUwQSUzQ3NjcmlwdCUyMGNoYXJzZXQlM0QlMjJ1dGYtOCUyMiUyMHR5cGUlM0QlMjJ0ZXh0JTJGamF2YXNjcmlwdCUyMiUyMHNyYyUzRCUyMiUyRiUyRmpzLmhzZm9ybXMubmV0JTJGZm9ybXMlMkZ2Mi1sZWdhY3kuanMlMjIlM0UlM0MlMkZzY3JpcHQlM0UlMEElM0MlMjElNUJlbmRpZiU1RC0tJTNFJTBBJTNDc2NyaXB0JTIwY2hhcnNldCUzRCUyMnV0Zi04JTIyJTIwdHlwZSUzRCUyMnRleHQlMkZqYXZhc2NyaXB0JTIyJTIwc3JjJTNEJTIyJTJGJTJGanMuaHNmb3Jtcy5uZXQlMkZmb3JtcyUyRnYyLmpzJTIyJTNFJTNDJTJGc2NyaXB0JTNFJTBBJTNDc2NyaXB0JTNFJTBBJTIwJTIwaGJzcHQuZm9ybXMuY3JlYXRlJTI4JTdCJTBBJTA5cG9ydGFsSWQlM0ElMjAlMjI0NzU5MDI5JTIyJTJDJTBBJTA5Zm9ybUlkJTNBJTIwJTIyNGViYTE3MTEtYzRiYy00MDJkLTkwNzktMWY0YjgxNjcyMjVhJTIyJTBBJTdEJTI5JTNCJTBBJTNDJTJGc2NyaXB0JTNFJTBBJTIwJTIwJTIwJTIwJTIwJTIwJTIwJTIwJTNDJTJGZGl2JTNF[/vc_raw_html][/vc_column][/vc_row]

Share this post :

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us​