หากใครได้ไปเยี่ยมชมบูธคาวาซากิที่งาน BMF 2019 ที่ผ่านมา คงจะผ่านตาเจ้ารถคลาสสิคสองโมเดลที่เปิดตัวสดๆร้อนๆในงานนี้ นั่นก็คือ Kawasaki W800 Street และ Kawasaki W800 Cafe ซึ่งหลายคนที่ชื่นชอบรถสไตล์คลาสสิค ก็คงจะถูกใจไม่น้อย ซึ่งปัจจุบัน คาวาซากิจะมีรถสายรหัส W ทั้งหมด 3 รุ่น นั่นคือ W800 W250 และน้องเล็ก W175 วันนี้เลยขอเสนอประวัติความเป็นมาของเจ้าสายรหัส W นี้กัน

Kawasaki W800 ถือเป็นรถญี่ปุ่นอีกรุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นับสืบขึ้นไปถึงรุ่น W1 ในปี 1965 และถือเป็นลูกหลานสืบเชื้อสายโดยตรงของ รถ BSA ประเทศอังกฤษที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยเริ่มจาก บริษัท Kawasaki Heavy Industries ในขณะนั้น ซึ่งโด่งดังในอุตสาหกรรมประเภทอื่น ต้องการเข้ามาจับตลาดมอเตอร์ไซค์ จึงได้เข้าซื้อกิจการบริษัทมอเตอร์ไซค์ชื่อดังนามว่า Meguro ของญี่ปุ่น
ซึ่งยี่ห้อนี้เคยเป็นถึงยักษ์ใหญ่ในวงการมอเตอร์ไซค์ของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1930 มีการส่งรถร่วมการแข่งขันและออกขายในต่างแดนมากมาย สร้างชื่อเสียงด้านคุณภาพของรถญี่ปุ่น จนแม้แต่เซียนมอเตอร์ไซค์ชาวอังกฤษถึงกับชมว่า Too good to be true เลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ภายหลัง Meguro ประสบปัญหาด้านยอดขาย จนเลิกกิจการ ถูกควบรวมกลายเป็นแบรนด์คาวาซากิในที่สุด ปัจจุบันนี้น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อ Meguro
1966 kawasaki W1 ปี 1996 ปู่ของ W800

บริษัท Meguro ในยุคที่รุ่งเรืองนั้น ได้ถือสิทธิในการผลิตรถ BSA A7 ขนาด 500cc อยู่ ซึ่งภายหลังจากที่คาวาได้ควบรวมบริษัท Meguro มาเป็นของตน จึงได้กรรมสิทธิ์ในการผลิตรถรุ่นต่างๆพ่วงเข้ามาด้วย คาวาซากิจึงได้พัฒนาต่อยอดเจ้าโมเดล BSA A7 จนกลายมาเป็น รุ่น W1 ในปี 1965 ซึ่งเจ้ารถ Kawasaki W1 นั้นถือเป็นตำนานในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการรถญี่ปุ่น ได้รับเกียรติจาก สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น ยกให้เป็น 1 ในรถ 240 คัน (รวมรถยนต์) เข้ากรุ ยกย่องให้เป็นตำนานความสำเร็จของยานยนต์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว
1949 BSA A7 ตัวต้นฉบับที่ Meguro ได้สิทธิ์ในการผลิตมา แล้วส่งต่อให้ Kawasaki

นับตั้งแต่นั้นมาคาวาซากิก็ได้พัฒนา ต่อยอดรถรุ่น W1 มาเป็น W2 W3 ตามลำดับ แล้วก็มาแทนที่ด้วยตระกูล Z อยู่ระยะนึง ก่อนจะกลับมาพัฒนา W อีกครั้งเป็น W650 ในปี 1999 และ W800 ในปี 2011 ซึ่งรถในตระกูล W จะมีพื้นฐานและหน้าตาเครื่องยนต์แบบรถอังกฤษมีความละม้ายคล้ายคลึง BSA มาก ขนาดที่ฝรั่งยังบอกว่า W650 W800 เป็นรถที่มีหน้าตา สัดส่วนและความเป็นรถจักรยานยนต์ทรงอังกฤษแท้ๆ มากกว่ารถแบรนด์เจ้าประเทศในปัจจุบันเสียอีก

จุดเด่นของเจ้า w650 และ w800 อยู่ที่ด้านขวาของเครื่อง เป็นดีไซน์แบบ bevel drive เฟืองดอกจอกขับเพลาราวลิ้น โดยในอดีต Ducati เคยผลิตเครื่องลักษณะนี้สำหรับรถสปอร์ตเป็นทรง v twin ในยุคปี 1970 และกลายเป็นรถสะสมในที่สุด ซึ่งดีไซน์เครื่องเฟืองขับแบบนี้ สามารถย้อนกลับไปถึงรถอังกฤษอย่าง Velocette ในปี 1920 เลยทีเดียว ได้ยินมาว่าตอนที่ คาวาซากิเปิดตัว Kawasaki W650 ครั้งแรกนั้น ได้สร้างความฮือฮาในวงการสองล้อ ไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีใครสามารถอาจหาญ ผลิตเครื่องขับด้วยเฟืองดอกจอกซึ่งถือว่ามีต้นทุนการผลิตสูงมากๆ ทำออกมาขายในราคาบ้านๆได้ และในปัจจุบันนี้ก็เหลือแต่บริษัทคาวาซากิที่ยังผลิตเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ลักษณะนี้อยู่ ไม่มีใครกล้าทำออกมาอีกแล้ว
ซ้ายบน เครื่อง kawasaki w800 ขวาบน เครื่อง ducati v twin ล่าง รถ Velocette เครื่อง 500 เฟืองขับ ปี 1926

ในประเทศญี่ปุ่นเอง นอกจาก W650 และ W800 แล้วยังมีรุ่น W400 ซึ่งมีเครื่องยนต์กำลังน้อยกว่าขนาด 400cc สำหรับผู้ที่สอบได้ใบขับขี่เบื้องต้น มาเป็นตัวเลือกอีกรุ่นนึงด้วย ซึ่งทั้ง W650 และ W400 เป็นรถจ่ายน้ำมันด้วยคาบูเรเตอร์ วางขายอยู่ถึงปี 2010 ก่อนทั้งสองรุ่นจะถูกแทนที่ด้วย W800 ในปี 2011 นี่สุด
Kawasaki W800 ก็ถือเป็นรถสุดคลาสสิคโมเดลนึงที่เป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งนับตั้งแต่ ปี 2011 ถึง 2016 เพียงไม่กี่ปี เรากลับได้เห็น Kawasaki W800 รุ่นพิเศษ สีสันต่างๆ ออกทำการตลาดโดยไม่ขาดช่วง แทบจะนับสีไม่ไหวเลยทีเดียว ซึ่งแสดงถึงความนิยมของรถรหัส W ได้ชัดเจน
นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา kawasaki ได้วางขาย W800 สีพิเศษมากมาย เกือบ 20 เฉดสีให้เลือก

แต่แล้วก็เกิดข่าวเศร้าขึ้นในปี 2016 เมื่อคาวาซากิ ประกาศว่า จำเป็นต้องยุติการผลิต รถตระกูล W800 เนื่องจากไม่สามารถผ่านมาตรฐานไอเสียและความปลอดภัยในอนาคต EURO4 ของยุโรปและอีกหลายประเทศได้อีกต่อไป จึงได้ออกรุ่นพิเศษอำลารถตระกูล W โดยให้ชื่อรุ่นว่า W800 Final Edition ออกวางขายในญี่ปุ่น ยุโรป และออสเตรเลีย
Final Edition ถังสีส้ม รุ่นพิเศษสั่งลาของรถตระกูล W ที่คาวาซากิประกาศวางจำหน่ายเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2017

ในช่วงเวลาที่คาวาซากิญี่ปุ่นประกาศเลิกผลิต W จู่ๆคาวาซากิประเทศไทย ก็นำ W800 เข้ามาเปิดตัววางขายเป็นครั้งแรก จนชาวสองล้อบ้านเราตกใจกันว่ามาได้อย่างไร เป็นเรื่องประหลาดและสร้างความสับสนไม่น้อย ท่ามกลางข่าวลือ ความไม่มั่นใจของแฟนๆว่า เป็นการขายโละสต้อคของญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว คาวาซากิได้ทดลองเปิดตัว W800 ในประเทศอื่นๆที่ยังไม่ได้ใช้มาตรฐาน EURO4 ด้วย แถมได้รับผลตอบรับดีเกินคาดในช่วง 2 ปีถัดมา
W800 วางจำหน่ายในไทยเพียงสองปี จึงมีสีให้เลือกเพียงแค่ 4 สี นั่นคือ
สีดำสนิท สีน้ำเงิน สีดำตัดขาว และสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีของปี 2015 2016 ในประเทศญี่ปุ่น
น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็น W800 สีสันแสบๆโดนๆแบบที่ต่างประเทศได้ใช้กัน




จากผลตอบรับที่ดีเกินคาดนี้เอง และกระแสรถแนวเรโทรที่กำลังมาแรงทั่วโลก ทำให้คาวาซากิเริ่มเล็งเห็นว่า ยังสามารถชุบชีวิตตระกูล W ขึ้นมาใหม่ได้ จึงได้พัฒนารุ่น W175 ขึ้นมาใหม่ และจับเอาเจ้า Estrella 250 คลาสสิคตัวเล็กที่ขายในญี่ปุ่น มาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น W250 โดยได้วาง position ของทั้งสามรุ่น (w175, w250, w800) เป็นไลน์อัพรถกลุ่มเรโทรขึ้นมาใหม่ในปี 2017 และในระหว่างนี้ก็เริ่มโปรเจคพัฒนา W800 ตัวใหม่ขึ้นมาลับๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน EURO4 สามารถกลับมาขายในยุโรปและอเมริกาได้อีกครั้ง
Kawasaki W175

Kawasaki W250

W series ปี 2017
จากตำนาน W1 รุ่นแรกในปี 1965 ก็เดินทางผ่านกาลเวลา 53 ปี เข้าสู่ปี 2018 คาวาซากิก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์ ต่ออายุรถ W800 ประกาศเปิดตัว W800 ABS รุ่นใหม่ สำหรับปี 2019 เป็นต้นไป ที่งาน EICMA 2018 ประเทศอิตาลี วางจำหน่าย 2 รุ่นคือ รุ่น Street และ Cafe Racer โดยปรับโฉมให้มีหน้าตาดู Modern ขึ้น
มีเทคโนโลยีความปลอดภัยดีเยี่ยมกว่าเดิม โดยจุดที่แตกต่างจาก W800 ตัวเดิม หลักๆคือ ดีไซน์เครื่องยนต์ภายในใหม่หมด, ABS, ดิสเบรกหน้าหลัง, slipper clutch, ไฟ LED, ท่อไอเสียแบบใหม่ที่ตั้งใจจูนเสียงให้ดุดันขึ้น, เฟรมตัวใหม่, แฮนเดิลบาร์ทรงใหม่, และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆอีกเล็กๆน้อยๆ
W800 2019 “Street”


คาวาซากิตั้งใจให้ W800 รุ่นใหม่นี้ เป็นรถในกลุ่ม Modern / Neo Classic อย่างแท้จริง แตกต่างจาก W800 ตัวเดิมที่มีความเป็นวินเทจชัดเจน ซึ่งก็น่าติดตามดูรีวิวของนักทดสอบจากประเทศต่างๆจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะมาในเร็วๆนี้เมื่อคาวาซากิเริ่มส่งมอบรถ ทางผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ครอบครอง W800 ตัวเดิม ก็พลอยรู้สึกตื่นเต้น และสนใจอยากรู้ว่าเจ้า W800 ตัวใหม่ จะมีฟิลลิ่ง ลีลา แตกต่างจากตัวเดิมแค่ไหน จากที่อ่านเสปคคร่าวๆ ก็พอคาดเดาได้ว่า จะเป็นรถที่ขี่ถนนทางดำ ได้สนุกมากๆคันนึงแน่นอน มาตามดูกันครับ


W800 รถในสไตล์คลาสสิคที่ไม่มีวันเก่า ด้วยรูปลักษณ์และกลิ่นไอความเป็นคลาสสิคสุดลงตัว สามารถสะกดทุกสายตาที่จ้องมองมา และเชื่อว่า W800 นั้นเป็นรถที่หลายคนหลงไหล ความเป็นคลาสสิคในตำนาน พร้อมเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ถูกถ่ายทอดมาเพื่อรอให้คุณเข้าไปสัมผัส หากสนใจทดลองขับขี่ตัวจริงของ W800 ABS 2019 สามารถเข้าไปที่ศูนย์คาวาซากิ Real MotoSports ทุกสาขา เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกการเดินทาง
บทความโดย DimsumRacer ปอ

ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า