[vc_row][vc_column][vc_column_text]
คนเดียวก็ขี่ได้ 3 ชั่วโมง
[/vc_column_text][vc_single_image image=”13266″ img_size=”full”][vc_column_text]
Kawasaki Enduro 3Hr.
เป็นที่ทราบกันดีอยู่กับเกมการแข่งขัน Enduro 3 Hour ของกิจกรรม Kawasaki ที่ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปี 2019 เอง Kawasaki ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ซึ่งในปีนี้ได้จัดขึ้นทั้งหมด 5 สนาม กิจกรรม Kawasaki Enduro 3 Hour ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายชาวเอ็นดูโร่ในเมืองไทยเป็นอย่างมาก กับรูปการขับขี่ที่จะต้องขี่ถึง 3 ชั่วโมง จากนักแข่ง 3 คน ใครทำรอบได้มากที่สุดถือว่าเป็นผู้ชนะ[/vc_column_text][vc_column_text]
การเตรียมควาามพร้อมทั้งทีมกับ Kawasaki Enduro 3hr
ซึ่งในการแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ตัวนักแข่งเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของทีมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนในเรื่องของการเปลี่ยนตัวหรือว่าการวางแผนในเรื่องของการเติมน้ำมัน รวมไปถึงการแก้ไขในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันด้วย ในส่วนนั้นก็เป็นเรื่องของการวางแผนในรูปแบบของทีมตามที่กติกาได้กำหนดขึ้นเอาไว้[/vc_column_text][vc_column_text]
เขมรัฐ สุธรรมวาท
แต่ว่าในอีกมุมหนึ่งของการแข่งขันนั้นก็มียังมีคนพันธุ์อึด อีกคนหนึ่งที่ได้ลงทำการแข่งขันเช่นกัน แต่ว่าเป็นการลงแข่งขันเพียงคนเดียว นั้นหมายถึงการขี่คนเดียววางแผนคนเดียว ตลอดถึง 3 ชั่วโมง กับการขับขี่ในรูปแบบของการแข่งขันถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และในปีนี้กับการลงทำการแข่งขันของ “เขมรัฐ สุธรรมวาท” หรือที่ใครจะรู้จักกันดีในนามของอาจารย์เขม นั้นเองกับการแข่งขัน Enduro 3 Hour เพียงคนเดียวตลอดฤดูกาลปี 2019 นับว่าเป็นคนพันธุ์อึดทีเดียว และเชื่อว่าหลายคนที่เคยได้เห็นก็อยากจะลองพิสูจน์ความสามารถของตัวเองกันดูว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า[/vc_column_text][vc_single_image image=”13268″ img_size=”full”][vc_column_text]
วางแผนก่อนขี่ Enduro 3Hr.
คราวนี้ลองมาฟังถึงการขับขี่ที่ต้องมีการวางแผนกันสักหน่อยครับว่า ขี่ยังไงคนเดียว 3 ชั่วโมง ร่างกายต้องอึดขนาดไหน หรือว่าต้องมีการเตรียมความพร้อมของร่างกายยังไงและต้องวางแผนการเซอร์วิสรถยังไงเพื่อให้จบการแข่งขันได้[/vc_column_text][vc_column_text]
กติกาต้องแข่ง 3 แต่ อ.เขมมา 1
แต่ว่าก่อนที่จะไปดูเรื่องความพร้อมก็ต้องมาดูเรื่องของกติกาการแข่งขันกันก่อนว่าที่จริงแล้วรายการ Kawasaki Enduro 3 Hrs. ใน 1 ทีมจะต้องมีผู้ร่วมทีม 3 คน โดยจะต้องสลับกันขี่ แต่ถ้าหากต้องการจะขับขี่คนเดียวก็ได้แต่ว่า…!!! จะไม่มีผลเรื่องของการแข่งขัน นอกเสียจากรถที่เข้ามาทำการแข่งขันแล้วไม่จบการแข่งขัน กรรมการถึงจะมีการเลื่อนอันดับขึ้นมาให้นักแข่งที่แข่งขันเพียงคนเดียว และจากการได้พูดคุยในเรื่องของเตรียมตัวแล้ว “อ.เขม” หรือ เขมรัฐ สุธรรมวาท ที่ได้มาเป็นวิทยากรใน Kawasaki Enduro 3 Hrs. ก็เลยทำให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันด้วย ทำให้ได้ข้อมูลถึงการเตรียมว่า นอกเหนือจากทักษะการขับขี่และอุปกรณ์ป้องกันที่เชื่อว่าคนที่ขี่รถประเภทนี้น่าจะทราบกันดี[/vc_column_text][vc_column_text]
ออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ
เรื่องต่อมาก็คือเรื่องของการออกกำลังกายเตรียมความพร้อมนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะอย่าลืมว่าการขับขี่รถสไตล์เอ็นดูโร่นั้นร่างกายต้องได้รับการกระแทกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการถูกกระแทกจะทำให้กินแรงพอสมควรทีเดียว ฉะนั้นการวางตารางการออกกำลังควรจะออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ถ้าไปออกกำลังเพียงแค่ช่วงใกล้แข่งนั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อกำลังที่ต้องใช้อย่างหนักในช่วงนั้น และถ้าหากร่างกายไม่แข็งแรงสิ่งที่ตามมาก็อาจจะเกิดหมดแรง หรือเกิดตะคริวในช่วงของการแข่งขันได้[/vc_column_text][vc_column_text]
ร่างกายพร้อมใจพร้อมเราก็ทำได้
ในช่วงการแข่งขันช่วงโมงแรกจะเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก แต่หลังจากนั้นร่างกายจะปรับสภาพได้ ซึ่งในช่วงของการแข่งขันอาจจะไม่ต้องกดคันเร่งเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอด ช่วงไหนที่รู้สึกเหนื่อยก็สามารถผ่อนคันเร่งได้ แต่ว่าควรจะจำไลน์ขี่ให้ดีก็จะช่วยออมแรงได้มาก อุปกรณ์อีกอย่างที่ถือว่าสำคัญมากก็คือกระเป๋าใส่น้ำสามารถจิบน้ำได้เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ อีกอย่างหนึ่งห้ามลืมก็คือควรกินอาหารก่อนแข่งจะเริ่ม ก็จะกินข้าวก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะถ้ากินใกล้ช่วงแข่งก็จะทำให้จุกได้เหมือนกัน บางคนก็อาจจะกินกล้วยเข้าไป ซึ่งอันนี้นักแข่งหลายคนก็เอามาใช้กัน ร่างกายก็จะดึงพลังงานมาใช้ได้ทันที[/vc_column_text][vc_single_image image=”13284″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]
KLX 250 เดิมๆ ก็สู้ได้
นอกจากเรื่องของการเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว ก็มาดูในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของรถ ด้วยรถคันนี้เป็น KLX250 ที่ปรับเซ็ทมาเพียงแค่เครื่องกล่องและท่อเท่านั้น นอกนั้นเป็นของเดิมทั้งคัน จะมีก็เพียงการปรับเซ็ทช่วงล่างให้มีความเหมาะสมกับการขับขี่ของตัวเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของนักแข่งอยู่แล้ว ด้วยความที่เป็นรถสแตนดาร์ดนั้นแน่นอนว่ามั่นใจในเรื่องของความอึดของตัวรถอยู่แล้วว่า 3 ชั่วโมงนั้นสามารถขับขี่ได้อย่างสบาย ส่วนที่เหลือคือการวางแผนให้ดี โดยเฉพาะเรื่องของการเติมน้ำมันที่จะต้องมีการคำนวนให้ดีว่าใน 1 ถังนั้นจะต้องเติมในรอบไหน ในทุกสนามจะใช้น้ำมันอยู่ประมาณถังครึ่ง ถึงน้ำมันจะไม่หมดแต่ก็ต้องเติมเอาไว้ก่อนเพื่อความมั่นใจ ในถังที่ 2 จะเติมในช่วงของ 1 ชั่วโมงครึ่งหลัง แต่ถึงจะมีการเตรียมความพร้อมมากขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีการเกิดอุบัติเหตุจนได้ อย่างในสนามที่ 2 ที่ระยองก็เกิดยางแตก แต่โชคดีว่าได้รีมล็อค (อ่านเรื่อง รีมล็อก) ช่วยเอาไว้ไม่ให้ยางดิ้นหลุด สนามนั้นล็อคเอาไว้ดีมากเลยทำให้จบการแข่งขันได้[/vc_column_text][vc_single_image image=”13388″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_column_text]เป็นข้อมูลที่นำมาฝากันเผื่อว่าเอาไว้เป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจอยากที่จะลองพิสูจน์ตัวเองเหมือนกับ “อ.เขม” ที่จะลงแข่งคนเดียวแบบนี้ทั้งฤดูกาล 2019 ซึ่งบางคนอาจจะไม่ลงแข่งแบบคนเดียวทั้งฤดูกาล แค่ได้ลองสัก 1 สนามก็เป็นการได้ลองที่ได้พิสูจน์ใจของตัวเองกันแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าเอาไว้ก่อนว่าผู้ที่ลงทำการแข่งขันเพียงคนเดียวนั้นจะต้องไม่หวังรางวัลก่อนเป็นอันดับแรก เพราะทุกสนามที่ “อ.เขม” ได้ขึ้นรับถ้วยก็เพราะว่ารถแข่งในรุ่นเดียวกันนั้นหลายคันไม่จบการแข่งขันทำให้ได้เลื่อนอันดับขึ้นมานั้นเอง[/vc_column_text][vc_single_image image=”13391″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_single_image image=”13282″ img_size=”full” alignment=”center”][vc_single_image image=”13245″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” img_link_target=”_blank” link=”https://realmotosports.com/promotions/#modal-promo-adventure”][vc_column_text]